
จบข้อพิพาท! “เชฟรอน-มิตซุย-โททาล” ยอมรื้อถอนแท่นปิโตรเลียม “เอราวัณ-บงกช”
ครม. รับทราบความคืบหน้าการยุติข้อพิพาทรื้อถอนแท่นปิโตรเลียมแหล่งเอราวัณ-บงกช หลังเจรจาสำเร็จ คู่กรณียอมรับข้อตกลง รัฐไม่เสียประโยชน์ พร้อมเดินหน้าส่งเสริมการลงทุนพลังงานอย่างมั่นคง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 มี.ค. 68) ตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 คณะรัฐมนตรีได้รับทราบรายงานความก้าวหน้าของกระบวนการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการ ตามที่ กระทรวงพลังงาน เสนอ กรณีข้อพิพาทด้านกฎหมายการรื้อถอน แท่นปิโตรเลียมในแหล่งเอราวัณ และ บงกช ซึ่งเกี่ยวข้องกับ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด บริษัท มิตซุย ออยล์ เอ็กซโปลเรชั่น คัมปะนี ลิมิเต็ด และ บริษัท โททาล เอนเนอร์ยี่ส์ อีพี ไทยแลนด์ โดยล่าสุด กระบวนการเจรจาข้อพิพาทดังกล่าวได้ข้อยุติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้กรณีข้อพิพาทด้านกฎหมายการรื้อถอนแท่นปิโตรเลียมของทั้งสองแหล่งได้รับการยุติลงอย่างสมบูรณ์
ทั้งนี้ ตามสัมปทานปิโตรเลียมแหล่งเอราวัณ (สัมปทานเลขที่ 1/2515/5 และ 2/2515/6) ซึ่งสิ้นสุดอายุในปี 2565 ผู้รับสัมปทานได้ส่งมอบสิ่งติดตั้งที่สามารถใช้ประโยชน์ต่อให้แก่รัฐจำนวน 159 รายการ และดำเนินการรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้จำนวน 52 รายการ ขณะที่แหล่งบงกช (สัมปทานเลขที่ 5/2515/9 และ 3/2515/7) ซึ่งสิ้นสุดอายุสัมปทานในปี 2565 และ 2566 ผู้รับสัมปทานได้ส่งมอบสิ่งติดตั้งให้แก่รัฐจำนวน 66 รายการ และดำเนินการรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้จำนวน 4 รายการ
ข้อพิพาทด้านกฎหมายการรื้อถอนแท่นปิโตรเลียมของทั้งสองแหล่งเกิดขึ้นระหว่างปี 2562 – 2563 จากกรณีที่บริษัทผู้รับสัมปทานยื่นข้อเรียกร้องเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ เนื่องจากมีความเห็นต่างเกี่ยวกับกฎหมายการรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่กระทรวงพลังงานประกาศใช้ ซึ่งกำหนดให้ผู้รับสัมปทานต้องวางหลักประกันและร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนบางส่วนของสิ่งติดตั้งภายหลังสิ้นสุดสัมปทานปิโตรเลียมในปี 2565 – 2566
ภายใต้กระบวนการพิจารณาคดี ฝ่ายไทยได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทั้งในและต่างประเทศเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างต่อเนื่อง จนสามารถหาข้อยุติได้ในที่สุด โดยบริษัท โททาล เอนเนอร์ยี่ส์ อีพี ไทยแลนด์ ได้เพิกถอนข้อพิพาทเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 และกระทรวงพลังงานได้นำเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2567 ส่วนกรณีของบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด และบริษัท มิตซุย ออยล์ เอ็กซโปลเรชั่น คัมปะนี ลิมิเต็ด คณะอนุญาโตตุลาการได้มีคำชี้ขาดตามยอม ซึ่งทุกฝ่ายยอมรับและพึงพอใจ พร้อมทั้งจำหน่ายคดีออกจากสารบบ โดยผู้รับสัมปทานยอมรับปฏิบัติตามคำชี้ขาดดังกล่าวและจะไม่นำข้อเรียกร้องกลับมาฟ้องร้องอีก
ผลของการยุติข้อพิพาทครั้งนี้ส่งผลให้ข้อเรียกร้องทั้งสองคดีถูกเพิกถอนโดยถาวร โดยรัฐไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด อีกทั้งยังเป็นการสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดีให้แก่ภาคเอกชน และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ นอกจากนี้ การดำเนินการรื้อถอนของผู้รับสัมปทานจะไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตปิโตรเลียมของผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตในปัจจุบัน ถือเป็นการบรรลุข้อตกลงที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด