
“กรมอุตุ” เตือนไทยตอนบนอากาศเย็น “ภาคใต้” ระวังฝนฟ้าคะนอง-คลื่นสูงเกิน 2 เมตร
กรมอุตุนิยมวิทยา เผยอากาศทั่วไทยเริ่มอุ่นขึ้น แต่เช้ายังเย็นในภาคเหนือและอีสาน ขณะที่ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ คลื่นลมแรงเกิน 2 เมตร แนะชาวเรือควรระมัดระวังเดินเรือ
ผู้สื่อข่าวรายงาน (22 มี.ค.68) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังคงทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง โดยคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ไว้ด้วย
ส่วนสภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้ การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณประเทศไทยตอนบนอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างมาก เนื่องจากมีลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อนลง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้
สภาพอากาศทั่วไทยมีแนวโน้มอุ่นขึ้น โดยในช่วงเช้ายังมีอากาศเย็นถึงหนาวในบางพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส แต่ยังคงเย็นในช่วงเช้า และร้อนขึ้นในช่วงกลางวัน โดยภาคเหนือมีอุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส และสูงสุด 30-37 องศาเซลเซียส ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออากาศจะเย็นกว่าภาคอื่น โดยมีอุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส และสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
สำหรับภาคกลางและภาคตะวันออก อุณหภูมิจะปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย โดยภาคกลางมีอุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส และสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ส่วนภาคตะวันออกมีอุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส และสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปานกลาง และในบริเวณชายฝั่งทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร โดยห่างฝั่งอาจสูงถึง 1-2 เมตร
ทางด้านภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนร้อยละ 20 ของพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส และสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันตกก็มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากจะเกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล โดยคลื่นลมในทะเลจะมีความสูงประมาณ 1 เมตร แต่ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นอาจสูงถึง 2 เมตร
ขณะที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศยังคงอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 22-24 องศาเซลเซียส และสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ท้องฟ้ามีเมฆบางส่วน และมีลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดเบาๆ ด้วยความเร็ว 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง