“ณัฐชา” อัด “แพทองธาร” ไม่จริงใจ แก้ปัญหา “ปลาหมอคางดำ”

“ณัฐชา” ซัด “แพทองธาร” ไม่จริงใจแก้ “ปลาหมอคางดำ” ตั้งพร้อมข้อสังเกตเอื้อกลุ่มทุนมากกว่าประชาชน ก่อนเอ่ยชื่อ “ทักษิณ” อยู่เบื้องหลังปัญหา ก่อนเจอประท้วงวุ่น


วันนี้ (24 มี.ค.68) ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้เปิดประเด็นร้อนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและอุตสาหกรรมประมงไทย พร้อมตั้งคำถามถึงบทบาทของรัฐบาลในการจัดการปัญหานี้

นายณัฐชา เปิดเผยข้อมูลจากรายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งระบุว่า มีบริษัทเอกชนรายหนึ่งนำเข้าปลาหมอคางดำเพียงรายเดียว โดยมีการนำเข้าพันธุ์สัตว์น้ำวิจัย 2,000 ตัว ในปี 2553 และส่งมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในปี 2554 ทว่าปลาเหล่านั้นกลับตายไปถึง 1,400 ตัว เหลือเพียง 600 ตัวที่เข้าสู่ศูนย์วิจัย แต่ต่อมากลับมีรายงานว่าปลาตายหมดโดยไม่มีหลักฐานยืนยันการทำลายซาก

นายณัฐชา ยังกล่าวถึงข้อสังเกตว่า ในสมัยรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พบปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติของประเทศไทยเป็นครั้งแรก อีกทั้งการตรวจสอบ DNA พบว่า ปลาหมอคางดำที่แพร่ระบาดในหลายจังหวัดมีความเหมือนกันทุกประการ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 ม.ค.68 ตัวแทนประชาชนจาก 19 จังหวัดได้ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้เร่งแก้ไขปัญหา แต่มีเพียงตัวแทนมารับเรื่องแทน จนกระทั่งวันที่ 18 มี.ค.68 กลุ่มประชาชนได้เดินทางไปทำเนียบรัฐบาลเพื่อทวงถามความคืบหน้า แต่ไม่ได้รับคำตอบจากนายกรัฐมนตรีโดยตรง กลับปรากฏภาพนายกรัฐมนตรีไปรับช่อดอกไม้จากกลุ่มผู้ประกอบการประมงพาณิชย์แทน

นอกจากนี้ นายณัฐชา ยังกล่าวพาดพิงถึงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในรัฐบาลกับบริษัทเอกชนที่ถูกตั้งข้อสงสัย โดยระบุว่า มีการปรากฏตัวร่วมกันในกิจกรรมประชาสัมพันธ์ รวมถึงงานเลี้ยงของกรมประมง ขณะที่อธิบดีกรมประมงชี้แจงว่า ไม่สามารถหาผู้กระทำผิดได้ เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นมานานกว่า 14 ปี

นายณัฐชา กล่าวด้วยว่า การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ครอบคลุม 76 อำเภอใน 19 จังหวัด และส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้ประกอบการประมงในพื้นที่ เรียกร้องให้ สส. พิจารณาปัญหานี้อย่างจริงจัง และใช้ดุลยพินิจในการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล พร้อมย้ำว่า สส. ควรคำนึงถึงประชาชนมากกว่ากลุ่มทุน

ท้ายที่สุด นายณัฐชาตั้งคำถามถึงโครงสร้างอำนาจภายในรัฐบาล โดยกล่าวพาดพิงถึงบทบาทของนายทักษิณ ชินวัตรว่า อาจเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้

“ถึงแม้จะเป็นความลำบากในการตัดสินใจ แต่หากทุกท่านกล้าลงคะแนนไม่ไว้วางใจเด็ดเดี่ยว กล้าต่อกรกลุ่มทุนที่เข้าสิงรัฐบาล และกล้าต่อสู้กับผู้ควบคุมดูแลรัฐบาลนี้ ที่คอยชักใย โยงใยในตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี หรือชื่อเรียกที่ไม่เป็นทางการว่า สทร. แต่แท้จริงชื่อเรียกอย่างเป็นทางการคือ ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญตัวจริง ที่ชื่อทักษิณ ชินวัตรเป็นผู้กำกับฉากละคร ดูแลในแต่ละช่วง…” นายณัฐชา กล่าวทิ้งท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงาน สส. พรรคเพื่อไทย ได้ประท้วงการอภิปรายของนายณัฐชา ที่กล่าวถึงบุคคลภายนอก ซึ่งนายณัฐชา ยืนยันว่าพร้อมรับผิดชอบ

ด้าน นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ซึ่งทำหน้าที่ประธานในประชุม ได้กล่าวว่า เป็นไปตามข้อบังคับ ถ้ากล่าวถึงบุคคลภายนอกแล้วเสียหาย สภาฯ ก็จะไม่มีเอกสิทธิ์ให้ ถ้ามีการฟ้องร้องท่านก็ต้องรับผิดชอบตามข้อบังคับ

Back to top button