
EGCO ปิดดีล! โรงไฟฟ้า Quezon คว้าสัญญาขายไฟ 400 MW ฟิลิปปินส์ฉบับใหม่ 15 ปี
EGCO เดินหน้าสร้างรายได้มั่นคง โรงไฟฟ้า Quezon เซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 400 เมกะวัตต์ ระยะ 15 ปี กับผู้จำหน่ายไฟฟ้ารายใหญ่ในฟิลิปปินส์ เสริมเสถียรภาพพลังงานเกาะลูซอน พร้อมพัฒนาศักยภาพต่อเนื่อง
ดร.จิราพร ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO เปิดเผยว่า บริษัทประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญของบริษัท เคซอน เพาเวอร์ (ฟิลิปปินส์) จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังความร้อน Quezon ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Supply Agreement – PSA) ฉบับใหม่ กำลังผลิต 400 เมกะวัตต์ ระยะเวลา 15 ปี กับผู้จำหน่ายไฟฟ้าขายปลีกรายใหญ่ ในประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2568 ความสำเร็จดังกล่าวตอกย้ำบทบาทของโรงไฟฟ้า Quezon ที่มีเสถียรภาพสูงและจ่ายไฟฟ้าให้กับระบบไฟฟ้าของเกาะลูซอนมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนความสามารถในการสร้างรายได้ที่มั่นคงและสม่ำเสมอให้ EGCO Group ในอนาคต
โดยโรงไฟฟ้า Quezon ประสบความสำเร็จ ในการได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่ ซึ่งเป็นสัญญาระยะยาว 15 ปี การได้รับสัญญา PSA นี้สะท้อนถึง ความมุ่งมั่นของโรงไฟฟ้า Quezon ในการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าและความสามารถในการจำหน่ายไฟฟ้าในตลาดไฟฟ้าฟิลิปปินส์อย่างต่อเนื่อง โดย Quezon มีแผนหยุดเดินเครื่องเพื่อซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า ให้พร้อมทุกด้านสำหรับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าโรงไฟฟ้าจะสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ต่อไปได้อย่างราบรื่น และช่วยเสริมสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพให้กับระบบไฟฟ้าของเกาะลูซอน อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันโรงไฟฟ้า Quezon จะช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงและสม่ำเสมอให้กับ EGCO Group ในระยะยาวด้วย”
ทั้งนี้ EGCO ถือหุ้น 100% ในโรงไฟฟ้าพลังความร้อน Quezon ตั้งอยู่ในเทศบาลเมืองเมาบัน จังหวัดเคซอน บนเกาะลูซอน ซึ่งมีจำนวนประชากรมากที่สุดในประเทศฟิลิปปินส์ โรงไฟฟ้าเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2543 ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว 25 ปี กับ Meralco และมีบทบาทช่วยสร้างความมั่นคงทางพลังงานอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วงที่ฟิลิปปินส์ยังขาดแคลนไฟฟ้า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โรงไฟฟ้า Quezon ให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม อย่างเกื้อกูลและยั่งยืน ด้วยการดำเนินโครงการส่งเสริมการศึกษาและการดูแลสุขภาพ ควบคู่กับการพัฒนาทักษะอาชีพและโครงสร้างพื้นฐานของชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ตลอดจนโครงการดูแลความหลากหลายทางชีวภาพ ได้แก่ โครงการอนุรักษ์เต่าทะเลและโครงการฟื้นฟูป่าชายเลน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน (ณ วันที่ 25 มีนาคม 2568) EGCO Group มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 6,608 เมกะวัตต์ (รวมโรงไฟฟ้า ที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วและโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) โดยมีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนรวม 1,350 เมกะวัตต์ (คิดเป็น 20% ของกำลังผลิตทั้งหมด) ทั้งจากชีวมวล พลังน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลมทั้งบนบกและนอกชายฝั่ง เซลล์เชื้อเพลิง และระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าและโครงการต่างๆ ตั้งอยู่ใน 7 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ยังมีธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ บริษัท เอ็กโก เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด “ESCO” ให้บริการงานเดินเครื่อง บำรุงรักษา วิศวกรรม ก่อสร้าง อนุรักษ์พลังงาน และการฝึกอบรมแก่โรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ บริษัทโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค “CDI” ในอินโดนีเซีย ระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “TPN” โครงการนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง “ERIE” บริษัทด้านการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรม “Innopower” และบริษัทเทคโนโลยีด้านการเงิน “Peer Power” ทั้งนี้ EGCO Group ได้รับการจัดอันดับอยู่ใน Dow Jones Sustainability Index (DJSI) มา 5 ปีต่อเนื่อง (2563-2567) สามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับ EGCO Group เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.egco.com และ www.facebook.com/EGCOGroup