สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 24 มี.ค.68

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดพุ่งขึ้นในวันจันทร์ที่ 24 มีนาคม 2568 หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ในรูปแบบที่เจาะจงเป้าหมาย แทนการบังคับใช้แบบวงกว้าง ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,583.32 จุด เพิ่มขึ้น 597.97 จุด หรือ +1.42% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,767.57 จุด เพิ่มขึ้น 100.01 จุด หรือ +1.76% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,188.59 จุด เพิ่มขึ้น 404.54 จุด หรือ +2.27%

ขณะที่ ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเนื่องจากนักลงทุนยังคงระมัดระวังต่อความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ แม้มีความหวังเพิ่มขึ้นว่ามาตรการดังกล่าวอาจถูกดำเนินการในแนวทางที่ผ่อนปรนมากขึ้น ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 548.93 จุด ลดลง 0.74 จุด หรือ -0.13% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสลดลง 20.62 จุด หรือ -0.26% ปิดที่ 8,022.33 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีลดลง 39.02 จุด หรือ -0.17% ปิดที่ 22,852.66 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนลดลง 8.78 จุด หรือ -0.10% ปิดที่ 8,638.01 จุด

ด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดบวก หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากร 25% จากประเทศที่ซื้อน้ำมันและก๊าซจากเวเนซุเอลา ส่งผลให้ราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ 1.22% ปิดที่ 69.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 84 เซนต์ หรือ 1.16% ปิดที่ 73.00 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 5.80 ดอลลาร์ หรือ 0.19% ปิดที่ 3,015.60 ดอลลาร์/ออนซ์

ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงแนวโน้มเชิงบวกของนโยบายภาษีศุลกากร ดัชนีดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.16% แตะที่ระดับ 104.258