
นายกฯ ปัดต่อรอง เก้าอี้ รมต. แลก “เสียง สส.งูเห่า” ย้ำไม่ปรับ ครม. สัมพันธ์แน่นปึ้ก
นายกฯ “แพทองธาร” ยันไม่มีต่อรอง เก้าอี้รัฐมนตรี แลกเสียง สส. งูเห่า ชี้เสียงพรรคร่วมก็พอแล้ว ย้ำไม่มีแผนปรับ ครม. ตอนนี้ รับคุยกับ “ทักษิณ” แล้ว
วันนี้ (26 มี.ค.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังสภาผู้แทนราษฎร มีมติไว้วางใจ 319 ต่อ 162 เสียง จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณทุกคะแนนเสียง สส. ที่โหวตไว้วางใจ พร้อมยืนยันว่า ไม่ต้องการให้เกิดภาพ “งูเห่า” ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ได้หารือกับพรรคร่วมรัฐบาลเกี่ยวกับการลงมติ หากนับเพียงเสียงพรรคร่วมก็เพียงพออยู่แล้ว
นางสาวแพทองธาร ยังระบุว่า ไม่ติดใจกรณี สส. พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล 4 คนงดออกเสียง ขณะเดียวกัน ยังได้ถามกลับผู้สื่อข่าวว่า “7 เสียง” จากฝ่ายค้าน ที่โหวตไว้วางใจเป็นของใคร?
เมื่อถูกถามถึงกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีแลกกับเสียงสนับสนุนจากฝ่ายค้านนั้น นางสาวแพทองธาร ย้ำว่า ไม่มีการต่อรองเกิดขึ้น การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี พร้อมยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีแผนปรับ ครม.
“ไม่มี เพราะไม่ได้คุยกันไว้ก่อนเลย อันนี้ด้วยความสัตย์จริง ที่สุดแล้ว ไม่ได้คุยอะไรกันไว้ก่อนเลย เพราะฉะนั้นไม่ทราบว่าต้องให้อะไร” นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถูกถามอีกว่าถ้ามีการวิ่งไปหาทางนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นบิดาเพื่อขอเก้าอี้รัฐมนตรีจะรับฟังหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า รับฟังทุกเรื่องและมีการพูดคุยกันอยู่แล้ว เราฟังเหตุผลอยู่แล้ว
“ตอนที่จะตั้งรัฐมนตรี มีการปรึกษา มีการคุยกัน ถาม อย่างเช่นวันที่จะอภิปรายรอบนี้ มีการพูดกับท่านทักษิณอยู่แล้วว่า อ๋อยังไม่ได้จะปรับ ครม. ท่านก็บอกว่า “อ๋อเหรอ โอเค” อย่างเนี่ยค่ะ ก็คงเป็นเพียงมีแค่นี้ ไม่ได้คิดจะปรับ ครม. ตอนนี้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถูกถามว่าจะลำบากใจหรือไม่ถ้าทุกคนวิ่งไปหานายทักษิณ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า “คิดว่าทุกคนถ้าอยากได้อะไร อาจจะต้องมีการวิ่งทุกช่องทาง ซึ่งก็ทราบอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่ แล้วก็ดูกันเองว่าวิ่งทางไหนแล้วเป็นผลแล้วกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนเหตุผลที่ยังไม่ปรับ ครม. ในขณะนี้ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เพราะการทำงานยังเป็นไปด้วยดี ทุกคนต้องมีเวลาในการปรับตัว และเริ่มทำงานให้คล่องมือ เหมือนตนเองที่ครม.นี้เป็น ครม.แรก
เมื่อถูกถามถึงการอภิปรายเมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา ที่มีการกล่าวถึงการยื่นเรื่องให้แพทยสภาตรวจสอบกรณี “ชั้น 14” นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอรอผลการตรวจสอบก่อน ส่วนจะเปิดเผยต่อสาธารณชนได้หรือไม่ต้องตรวจสอบก่อนว่าจะผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าเปิดเผยได้ก็พร้อมเปิดเผย