THAI อัพเดตแผนฟื้นกิจการ ชำระหนี้ทะลุ 6.3 หมื่นล้าน ยันไร้ผิดนัด

นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI แจ้งผ่าน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ตามที่ ศาลล้มละลายกลาง (ศาล) มีคำสั่งให้ การบินไทย ฟื้นฟูกิจการและแต่งตั้งผู้ทำแผนเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2563 และเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2564 ศาลได้มีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการและแผนที่มีการแก้ไขตามมติของที่ประชุมเจ้าหนี้แผนฟื้นฟูกิจการ ได้กำหนดให้ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์, นายพรชัย ฐีระเวช, นายไกรสร บารมีอวยชัย, นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ และ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร เป็นผู้บริหารแผน

โดยในการลงนามในเอกสารใด ๆ เพื่อทำธุรกรรมหรือ เพื่อให้มีผลผูกพันบริษัทฯ ให้ผู้บริหารแผน 2 คน มีอำนาจลงนามร่วมกันเพื่อผูกพันบริษัทฯ ต่อมา เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ศาลล้มละลายกลาง มีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนที่แก้ไข และเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2565 นายไกรสร บารมีอวยชัย และ นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ ผู้บริหารแผนได้ลาออกจากการเป็นผู้บริหารแผนของบริษัทฯ

ทั้งนี้ ผู้บริหารแผน 3 ท่าน ที่เหลืออยู่มีอำนาจกระทำการในฐานะผู้บริหารแผนของบริษัทฯ ต่อไปได้ตามมาตรา 90/65 (6) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) และข้อ 10.6 (2) ของแผนฟื้นฟูกิจการ

เนื่องจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กำหนดให้เมื่อบริษัทฯ รายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการเป็นรายไตรมาสให้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี ให้รายงานให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบด้วยนั้น ผู้บริหารแผน ขอสรุปสาระสำคัญของการดำเนินการตามแผนเพื่อรายงานควานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ สำหรับงวดระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 ดังต่อไปนี้

1.การชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ

ตามที่กำหนดไว้ในแผนฟื้นฟูกิจการ ข้อ 5.3 การชำระหนี้ การขยายระยะเวลาชำระหนี้ และการลดภาระหนี้ ซึ่งกำหนดให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามคำสั่งให้ใด้รับชำระหนี้ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ศาลล้มละลายกลาง ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ หรือ ศาลฎีกา (แล้วแล้วแต่กรณี) ซึ่งเป็นคำสั่งถึงถึงที่สุดให้ได้รับชำระหนี้นั้น

จากข้อมูลการชำระหนี้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2568 ผู้บริหารแผนได้ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในแผน ข้อ 5.3.3 โดยการะหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยคงค้าง ตลอดจนการชำระหนีด้วยการแปลงหนี้เป็นทุน ตามแผน ข้อ 5.6.3 รวมเป็นเงิน 63,179,475,752.63 บาท และบริษัทฯ ไม่ได้มีการผิดนัดตามแผนแต่ประการใด

2. การปรับโครงสร้างทุนและการแปลงหนี้เป็นทุน

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 การบินไทย ได้ดำเนินการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 20,989,446,278 หุ้น
เพื่อชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้กลุ่มที่ 4-6 และเจ้าหนี้กลุ่มที่ 18-31 ด้วยการแปลงหนี้เงินต้น และดอกเบี้ยตั้งพักจำนวน
รวม 53,453,216,503.41 บาท เป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน ที่ราคาหุ้นละ 2.5452 บาท ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 5.6.3
ของแผนฟื้นฟูกิจการ โดยมีรายละเอียดการจัดสรร ดังนี้

ก) ชำระหนี้เงินต้นให้แก่เจ้าหนี้กลุ่มที่ 4-6 และเจ้าหนี้กลุ่มที่ 18-31 รวมจำนวน 37,601,923,443.82 บาท ด้วยการแปลงหนี้เป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 14,773,659,802 หุ้น

ข) ชำระหนี้เงินต้นโดยให้เจ้าหนี้กลุ่มที่ 5-6 และเจ้าหนี้กลุ่มที่ 18-31 ที่แสดงเจตนาใช้สิทธิแปลงหนี้เงินต้นของตนเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนภาระหนี้เงินต้นของเจ้าหนี้แต่ละรายที่แสดงเจตนาใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุน (pro rate basis) รวมจำนวน 12,500,079,881.65 บาท เป็นหุ้นหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 4,911,236,792 หุ้น

ค) ชำระดอกเบี้ยใหม่ตั้งพักให้แก่เจ้าหนี้กลุ่มที่ 4-6 และเจ้าหนี้กลุ่มที่ 18-31 ที่แสดงเจตนาใช้สิทธิ แปลงหนี้ดอกเบี้ยใหม่ตั้งพักของตนเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 3,351,213,1777.95 บาท เป็นหุ้นสามัญ เพิ่มทุนจำนวน 1,304,549,684 หุ้น

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 การบินไทย ได้ขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อ 5.6.4 ของแผนฟื้นฟูกิจการจำนวน 5,131,073,372 หุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม พนักงานของการบินไทย และบุคคลในวงจำกัดที่ราคาหุ้นละ 4.48 บาท ทำให้ได้รับเงินค่าหุ้นเพิ่มทุนจำนวนทั้งสิ้น 22,987,208,706.56 บาท โดยมีรายละเอียดการขาย ดังนี้

ก) ขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 5,048,989,272 หุ้น มูลค่ารวม 22,619,471,938.56 บาท

ข) ขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่พนักงาน จำนวน 59,512,700 หุ้น มูลค่ารวม 266,616,896 บาท

ค) ขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด จำนวน 22,571,400 หุ้น มูลค่ารวม 101,119,872 บาท

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 การบินไทย ได้จดทะเบียนลดทุนจดทะเบียนโดยการตัดหุ้นที่ยังไม่ได้ออก และจำหน่ายภายใต้ข้อกำหนดของแผนฯ จำนวนรวม 5,379,168,598 หุ้น

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 การบินไทยได้ดำเนินการจดทะเบียนลดทุนโดยการลดมูลค่าที่ตราไว้ (Par Value) ของหุ้น จากหุ้นละ 10.00 บาท เป็นหุ้นละ 1.30 บาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมทางบัญชีให้ให้ใกล้เคียงศูนย์มากที่สุด ซึ่งเป็นไปตามมติของที่ประชุมคณะผู้บริหารแผนเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 โดยภายหลังการลดทุนดังกล่าว การบินไทยมีทุนจดทะเบียนและทุนจดทะเบียนชำระแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 36,794,279,037.10 บาท

3.การขาย ให้เช่า หรือหาประโยชน์จากทรัพย์สินรองอื่น

ตามที่กำหนดในแผนฟื้นฟูกิจการข้อ 5.7.1 (ข) ที่กำหนดให้ผู้บริหารแผนมีอำนาจขาย ให้เช่า หรือหาประโยชน์ จากทรัพย์สินรอง ซึ่งรวมแต่ไม่จำกัดเพียงทรัพย์สินรองตามที่ระบุในเอกสารแนบ 5 ของแผนฟื้นฟูกิจการ สำหรับ งวดระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 นั้น

จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2568 การบินไทย มีความคืบหน้าในการขายเครื่องบินและเครื่องยนต์อะไหล่ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วจากที่เคยได้รายงานในครั้งก่อนๆ ดังนี้

ตามที่การบินไทย ได้รายงานความคืบหน้าในรายงานความคืบหน้าครั้งที่ 9 (ปีที่ 3 ไตรมาสที่ 1) เกี่ยวกับการขายเครื่องบินที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว จำนวน 1 ลำ ซึ่งการบินไทยได้รับเงินมัดจำร้อยละ 20 ของราคาขาย เครื่องบินแล้วนั้น ในไตรมาสนี้ การบินไทยได้รับเงินค่าขายเครื่องบินส่วนที่เหลือจำนวนร้อยละ 80 เป็นเงิน 1,200,000 ดอลลาร์สหรัฐจนครบถ้วนแล้ว ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการรอส่งมอบเครื่องบินให้แก่ผู้ซื้อ

ตามที่การบินไทยได้รายงานความคืบหน้าในรายงานความคืบหน้าครั้งที่ 10 (ปีที่ 3 ไตรมาสที่ 2) เกี่ยวกับการขายเครื่องบินที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว จำนวน 1 ลำ ซึ่งการบินไทยได้รับเงินมัดจำร้อยละ 20 ของราคาขายเครื่องบินแล้วนั้น ในไตรมาสนี้ การบินไทยได้รับเงินค่าขายเครื่องบินส่วนที่เหลือจำนวนร้อยละ 80 เป็นเงิน 720,000 ดอลลาร์สหรัฐจนครบถ้วนแล้ว และได้ส่งมอบเครื่องบินให้แก่ผู้ซื้อแล้ว

ตามที่การบินไทยได้รายงานความคืบหน้าในรายงานความคืบหน้าครั้งที่ 14 (ปีที่ 4 ไตรมาสที่ 2) เกี่ยวกับการขายเครื่องบินที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว จำนวน 1 ลำ ซึ่งการบินไทยได้รับเงินมัดจำร้อยละ 20 ของราคาขายเครื่องบินแล้วนั้น ในไตรมาสนี้ การบินไทยได้รับเงินค่าขายเครื่องบินส่วนที่เหลือจำนวนร้อยละ 80 เป็นเงิน 494,400 ดอลลาร์สหรัฐจนครบถ้วนแล้ว และได้ส่งมอบเครื่องบินให้แก่ผู้ซื้อแล้ว

ตามที่การบินไทยได้รายงานความคืบหน้าในรายงานความคืบหน้าครั้งที่ 6 และ 8 (ปีที่ 2 ไตรมาสที่ 2 และปีที่ 2 ไตรสาสที่ 4) เกี่ยวกับการขายเครื่องบินที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว จำนวน 1 ลำ ซึ่งการบินไทยได้รับเงิน ค่าขายเครื่องบินจนครบถ้วนแล้วนั้น ในไตรมาสนี้ได้ส่งมอบเครื่องบินลำดังกล่าวให้แก่ผู้ซื้อแล้ว

ตามที่การบินไทยได้รายงานความคืบหน้าในรายงานความคืบหน้าครั้งที่ 12 (ปีที่ 3 ไตรมาสที่ 4) เกี่ยวกับการขายเครื่องบินที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว จำนวน 1 ลำ ซึ่งการบินไทยอยู่ระหว่างรอรับชำระเงินมัดจำร้อยละ 20 เป็นเงิน 800,000 ดอลลาร์สหรัฐนั้น ในไตรมาสนี้ การบินไทยได้รับเงินมัดจำร้อยละ 20 ดังกล่าวแล้ว แต่ผู้บริหารแผนได้มีมติยกเลิกการขายเครื่องบินลำดังกล่าวและได้คืนเงินมัดจำให้แก่ผู้ซื้อแล้ว

ตามที่การบินไทยได้รายงานความคืบหน้าในรายงานความคืบหน้าครั้งที่ 13 (ปีที่ 4 ไตรมาสที่ 1) เกี่ยวกับการขายเครื่องยนต์อะไหล่ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วจำนวน 2 เครื่อง ซึ่งการบินไทยได้รับเงินมัดจำนวนร้อยละ 20 ของราคาขายเครื่องยนต์แล้วนั้น ในไตรมาสนี้ การบินไทยได้รับค่าขายเครื่องยนต์ส่วนที่เหลือจำนวนร้อยละ 80 เป็นเงิน 744,000 ดอลลาร์สหรัฐจนครบถ้วนแล้ว และได้ส่งมอบเครื่องยนต์ให้แก่ผู้ซื้อแล้ว

4.คณะกรรมการเจ้าหนี้

จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2568 มีการประชุมคณะกรรมการเจ้าหนี้เพิ่มเติมจากการรายงานความคืบหน้า ในไตรมาสก่อน รวม 2 ครั้ง ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการเจ้าหนี้ได้รับทราบในประเด็นต่าง ๆ รวมถึง หนังสือชี้ชวน ที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และกรอบเวลาการแปลงหนี้เป็นทุน และการเพิ่มทุน และเรื่องอื่น ๆ

ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานข้างต้นของบริษัทฯ แสดงถึงความสามารถในการชำระหนี้ได้ตามที่ แผนฟื้นฟูกิจการกำหนด จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ