
CK ขายหุ้น “LPCL” ให้ TTW มูลค่า 2.8 พันล้าน ลดภาระหนี้-ดอกเบี้ย ดันกำไรปีนี้เพิ่ม 18%
บล.กสิกรไทย มองเชิงบวกต่อ CK หลังตัดสินใจขายหุ้น 10% ในหลวงพระบางพาวเวอร์ให้ TTW มูลค่า 2.8 พันล้านบาท ช่วยลดภาระหนี้-ดอกเบี้ย คาดกำไรปี 68 เพิ่มขึ้น 18%
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KS ระบุว่าผลกระทบจากการที่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ตัดสินใจขายเงินลงทุนบางส่วนในบริษัท หลวงพระบางพาวเวอร์ จำกัด (LPCL) ซึ่งจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของ CK ใน LPCL ลดลงจาก 20% เหลือ 10% โดยการขายหุ้นดังกล่าวมีผลกระทบสำคัญต่อ CK ในหลายด้าน
โดยประการแรก CK จะได้รับเงินสดจากการขายหุ้นจำนวน 2.8 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทมีแผนนำไปชำระหนี้ ส่งผลให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลงประมาณ 140 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ การลดสัดส่วนการถือหุ้นจะทำให้ CK ไม่ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากโครงการนี้อีก
ก่อนหน้านี้อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาทต่อปี เนื่องจาก CK มีบทบาททั้งในฐานะผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้ถือหุ้นใน LPCL ทำให้ต้องมีการตัดรายการระหว่างกันในส่วนของกำไรจากการก่อสร้าง การขายเงินลงทุนครั้งนี้จึงช่วยให้โครงสร้างบัญชีของ CK มีความโปร่งใสขึ้น
อีกประเด็นสำคัญคือ งบการเงินของ CK จะมีเสถียรภาพมากขึ้น เนื่องจากจะไม่มีความผันผวนจากกำไรหรือขาดทุนทางบัญชีที่เกิดจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX Gain/Loss) ซึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนใน LPCL การลดสัดส่วนการถือหุ้นจึงช่วยลดความไม่แน่นอนในงบการเงินของบริษัท
สำหรับผลกระทบต่อบริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW ซึ่งเป็นผู้ซื้อหุ้นจาก CK พบว่าภาระหนี้ของ TTW จะเพิ่มขึ้น 2.8 พันล้านบาท ทำให้ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 105 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อ TTW ถือว่าอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้
โดยรวมแล้ว KS มีมุมมองเชิงบวกต่อ CK เนื่องจากการลดภาระดอกเบี้ยและการหยุดรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจาก LPCL จะช่วยหนุนกำไรให้ดีขึ้น โดยคาดว่าหาก CK นำเงินที่ได้จากการขายหุ้นไปชำระหนี้ทั้งหมด จะช่วยลดดอกเบี้ยจ่ายได้ 140 ล้านบาทต่อปี และไม่มีการรับรู้ขาดทุนจากโครงการ LPCL อีก 100 ล้านบาทต่อปี ส่งผลให้ประมาณการกำไรหลัก (Core Profit) ของ CK ในปี 2568 มีโอกาสเพิ่มขึ้น 18% ซึ่งกระทบต่อราคาเป้าหมายของหุ้น CK เพิ่มขึ้นราว 0.10 บาทต่อหุ้น หรือประมาณ 0.5% ของราคาเป้าหมายที่ 20.60 บาท
สรุปได้ว่าการขายเงินลงทุนครั้งนี้เป็นดีลที่ยุติธรรม (Fair Deal) ซึ่งช่วยให้ CK มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น และลดความเสี่ยงจากความผันผวนของงบการเงินในอนาคต