
นายกฯ ลงพื้นที่อาคาร สตง. ถล่ม หลังแผ่นดินไหวรุนแรง เร่งค้นหาผู้สูญหาย 118 คน
“แพทองธาร ชินวัตร” พร้อมรัฐมนตรีบางส่วน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ติดในซากอาคารพังถล่ม ขณะเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในเมียนมากระทบไทย ล่าสุดยังมีผู้สูญหาย 118 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 18:45 น. วันนี้ (28 มี.ค.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ในพื้นที่เขตจตุจักร พังถล่มลงมา หลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.2 ในประเทศเมียนมา และมีอาฟเตอร์ช็อกตามมามากกว่า 20 ครั้ง
นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เช่น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์และรับฟังรายงานการปฏิบัติงานจากเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง
โดยนายกรัฐมนตรี แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ พร้อมกำชับให้เร่งช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ภายในซากอาคารให้ออกมาอย่างปลอดภัยโดยเร็ว ทั้งนี้รายงานเบื้องต้นระบุว่า ขณะเกิดเหตุอยู่ระหว่างการติดตั้งกระจกของอาคารดังกล่าว
จากข้อมูลของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ณ เวลา 16:30 น. พบว่า ขณะเกิดเหตุมีคนงานก่อสร้างอยู่ในอาคารจำนวน 320 คน ซึ่งรายงานพบว่า มีคนงานสูญหาย 118 คน และมีคนงานติดอยู่ในช่องลิฟต์ 20 คน โดยยังไม่สามารถยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตที่แน่ชัด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ชีพกำลังดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอย่างเร่งด่วน
อัปเดต เวลา 18:38 น. รายงานจากศูนย์นเรนทร สพฉ.มีผู้เสียชีวิต 3 ราย จำนวนผู้บาดเจ็บทั้งหมด 68 ราย เป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (สีแดง) 5 ราย, ผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน (สีเหลือง) 19 ราย และผู้ป่วยฉุกเฉินไม่เร่งด่วน (สีเขียว) 44 ราย
โรงพยาบาลที่นำส่ง 68 ราย ได้แก่ รพ.ทหารผ่านศึก จำนวน 4 ราย, รพ.วิชัยยุทธ จำนวน 5 ราย, รพ.พญาไท พหลโยธิน จำนวน 9 ราย, รพ.เปาโลโชคชัย 4 จำนวน 20 ราย, รพ.ลาดพร้าว จำนวน 11 ราย, รพ.เพชรเวช จำนวน 4 ราย และรพ.ภูมิพล จำนวน 15 ราย
ขณะที่กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อดูแลผู้ประสบเหตุ และมีการใช้โดรนบินสำรวจสถานการณ์จากมุมสูงของซากอาคารที่พังถล่มด้วย