
หายห่วง! “3 เขื่อนหลัก” โครงสร้างไร้กระทบ “แผ่นดินไหว” ขนาด 8.2 เมียนมา
“เขื่อนภูมิพล-เขื่อนวชิราลงกรณ-เขื่อนศรีนครินทร์” ยืนยันโครงสร้างไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่เมียนมาขนาด 8.2
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 มีนาคม 2568) เวลา 13.32 น. ตามเวลาประเทศไทย ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูด ที่ประเทศเมียนมา โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 22.07 องศาเหนือ ลองจิจูด 96.12 องศาตะวันออก ลึก 10 กิโลเมตร เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เกิดแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งประชาชนทั้ง 13 อำเภอสามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนอย่างชัดเจน เป็นระยะเวลาราว 2 วินาที
นายทรงภูมิ พงษ์กสิเทวินท์ ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล แผนกบำรุงรักษาเขื่อนและอาคารโรงไฟฟ้า เปิดเผยว่า เขื่อนภูมิพลตรวจวัดค่าความเร่งจากแรงสั่นสะเทือนได้เพียง 0.00457g ซึ่งต่ำกว่าค่ารับแรงออกแบบที่ 0.1g เป็นอย่างมาก และจากการตรวจสอบพิเศษที่เขื่อนภูมิพล เขื่อนแม่ปิงตอนล่าง และอาคารประกอบ ไม่พบความเสียหายหรือสิ่งผิดปกติใด ๆ
ขณะที่เขื่อนวชิราลงกรณ จังหวัดกาญจนบุรี ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นด้วยสายตาและเครื่องมือวัด พบว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของตัวเขื่อนและอาคารประกอบ โดยเขื่อนดังกล่าวได้รับการออกแบบให้รองรับแผ่นดินไหวได้ถึง 8.2 แมกนิจูด และค่าการสั่นสะเทือนที่ตรวจวัดได้ในครั้งนี้อยู่ที่เพียง 0.0002g
นายกำฤทธิ์ ใบแย้ม ผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษาโยธา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวประมาณ 777 กิโลเมตร ตรวจวัดค่าความเร่งได้เพียง 0.00063g ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของตัวเขื่อน และยืนยันว่าเขื่อนสำคัญของ กฟผ. ทั้งเขื่อนแม่จาง เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนอื่น ๆ ยังมีความปลอดภัยและมั่นคง
ด้าน นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งการให้นายอำเภอทุกพื้นที่ตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารและโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมยืนยันว่าทั้งเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณยังมีความแข็งแรงปลอดภัย 100% และขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกจากข่าวลือ
ในระหว่างเกิดเหตุ โรงพยาบาลอำเภอสังขละบุรี ซึ่งตั้งอยู่ติดชายแดนเมียนมา ได้อพยพผู้ป่วยออกมายังพื้นที่โล่งชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะผู้ป่วยหนัก ก่อนจะดำเนินการตรวจสอบความเสียหายของอาคารโรงพยาบาลต่อไป
ทั้งนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ย้ำให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากช่องทางอย่างเป็นทางการ และหลีกเลี่ยงการแชร์ข่าวลือที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกในวงกว้าง