จับตา “หุ้นอสังหาฯ-ประกันภัย” ร่วง! แพนิกแผ่นดินไหว กระทบความเชื่อมั่น

เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.2 ความลึก 10 กิโลเมตร ในประเทศพม่า สั่นสะเทือนหลายพื้นที่ในไทย โบรกมองกระทบต่อหุ้นอสังหาฯ ประกันภัย และท่องเที่ยว ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ยังต้องจับตาผลกระทบระยะยาว


ผู้สื่อข่าวรายงานกองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า เมื่อเวลา 13:20 น. เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.2 ความลึก 10 กิโลเมตร ในประเทศพม่า ส่งผลให้ประชาชนในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้สามารถรับรู้ถึงแรงสั่นไหวได้

โดยสาเหตุเบื้องต้นเกิดจากรอยเลื่อนสะกาย ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐาน และทรัพย์สินเสียหาย เบื้องต้นพบอาคารสูงหลายแห่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเกิดการโยกไหว เนื่องจากการสั่นพ้องกับคลื่นแผ่นดินไหวความถี่ต่ำ ส่งผลให้เกิดความทรุด หรือแตกหักพังทลาย

หลังจากแผ่นดินไหว มักจะพบว่าหุ้นบางกลุ่มมีแนวโน้มที่จะ “ลงแรง” เนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นกับโครงสร้างพื้นฐานและทรัพย์สินต่างๆ ซึ่งอาจสร้างความกังวลต่อการลดลงของความต้องการในหลายธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ที่มีการถือครองอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากมีความเสี่ยงในการเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและการลดลงของมูลค่าทรัพย์สิน

ในส่วนของบริษัทประกันภัย เช่น MS&AD และ Tokio Marine ซึ่งมีกรณีที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นมักจะได้รับผลกระทบจากการต้องจ่ายเคลมมากขึ้น เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวที่ทำให้มีการเรียกร้องการชดเชยในจำนวนมาก

กลุ่มท่องเที่ยวและสายการบินก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน โดยการแผ่นดินไหวอาจทำให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยในสายการบิน ทำให้การท่องเที่ยวลดลงอย่างมาก ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ANA และ Japan Airlines ที่ต้องเผชิญกับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้

นอกจากนี้ กลุ่มสาธารณูปโภค เช่น โรงไฟฟ้า ระบบน้ำ และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบจากการที่มีการเสียหาย เช่น TEPCO ซึ่งได้รับผลกระทบหนักจากแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น ทำให้การดำเนินงานและการให้บริการต้องหยุดชะงักหรือมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น

สอดคล้องกับฝ่ายนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ประเมินสถานการณ์แผ่นดินไหวและผลกระทบจากการศึกษาผลกระทบภัยธรรมชาติ (แผ่นดินไหว) ในอดีตของประเทศไทยผ่านเหตุการณ์ สึนามิในช่วงปลายปี 2547 พบว่าหลังจากเปิดทำการตลาดหุ้นไทยปรับลง 2.2% และใช้ระยะเวลาเพียง 4 วันทำการกลับมา ณ ระดับก่อนเกิดสึนามิ

หากกลับมาที่ตลาดหุ้นไทยผลกระทบจากแผ่นดินไหวยังค่อนข้างจำกัดต่ออาคารสิ่งปลูกสร้างอย่างน้อยก็ยังไม่ได้เห็นอาคารสิ่งปลูกสร้างในกรุงเทพพังทลายลงมาก อาจมีบ้างเช่นสำนักการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)

ส่วนที่เหลือยังค่อนข้างปกติ แต่คอนโดต่างๆเผชิญกับปัญหารอยแตกร้าวและเสียความเชื่อมั่นจากผู้อาศัย ซึ่งจะกระทบกับอุปสงค์ในอนาคต โดยเฉพาะอสังหาฯที่มีคอนโดเป็นส่วนประกอบเยอะอย่างหุ้นบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI โดยควรระมัดระวังในหุ้นอสังหา ซึ่งได้รับ ผลกระทบหนักสุด

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า กลุ่มที่อาจได้รับผลกระทบเชิงลบโดยตรง คือ อสังหาฯ, รับเหมาก่อสร้าง, ประกันที่เป็น Non Life ที่เป็นประกันภัยต่อ ส่วนกลุ่มที่อาจได้รับผลกระทบเชิงลบทางอ้อม คือ ท่องเที่ยว และนิคมอุตสาหกรรม

Back to top button