
โบรกแนะสอย 8 หุ้น รับอานิสงส์ “สงกรานต์” ลุ้นเม็ดเงินสะพัด 1.3 แสนล้าน
บล.กรุงศรี คัด 8 หุ้นเด่น “กลุ่มค้าปลีก บริการ และท่องเที่ยว รับอานิสงส์ “เทศกาลสงกรานต์” ระหว่างวันที่ 13-15 เม.ย.68 คาดเม็ดเงินสะพัดแตะ 1.34 แสนล้านบาท ขยายตัว 4.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ใกล้เข้าสู่ช่วง “เทศกาลสงกรานต์” แล้ว ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่ทำเม็ดเงินสะพัดกว่าแสนล้าน อยู่ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2568 ยังถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นภาคการท่องเที่ยว การค้าปลีก ร้านอาหาร หรือแม้แต่ธุรกิจขนส่งและบริการต่างๆ
ในช่วงเทศกาลนี้ เม็ดเงินจำนวนมหาศาลจะหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ สะท้อนถึงพฤติกรรมการบริโภคของประชาชน และทิศทางการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจโดยรวม สอดคล้องกับกรณี รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2568 โดยคาดการณ์ว่าเม็ดเงินสะพัดในช่วงเวลาดังกล่าวจะอยู่ที่ 134,631 ล้านบาท ขยายตัว 4.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีมูลค่า 128,834.19 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังพบว่าร้อยละ 72.1 ของกลุ่มตัวอย่างมีแผนจะเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ซึ่งนับเป็นอัตราสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2562 แสดงถึงการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศ และแนวโน้มการใช้จ่ายเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
ผลสำรวจดังกล่าวสะท้อนภาพรวมเชิงบวกของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และบ่งชี้ถึงบรรยากาศการบริโภคที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มการท่องเที่ยว การเดินทาง และการใช้จ่ายในครัวเรือน
สอดคล้องกับทางฝ่ายนักวิเคราะห์ นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผ่าน “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่าจากผลสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 พบว่า คาดการณ์ว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดสูงถึง 134,631.73 ล้านบาท ขยายตัว 4.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยยังคงแนะนำกลุ่มสำหรับกลุ่มที่ค่อนข้างมั่นใจว่าได้ประโยชน์ คือกลุ่มค้าปลีก (Consumer Product) เช่น บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC, บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT เนื่องจากสินค้าบริโภคยังคงมีความต้องการในทุกสถานการณ์ และมักจะได้อานิสงส์จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เน้นซื้อของใช้จำเป็นครับ
นอกจากนี้กลุ่มบริการอย่าง บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM คาดจะได้รับผลดีในระดับหนึ่งครับ เพราะคนอาจใช้บริการระบบขนส่งมากขึ้นในช่วงนั้น
กลุ่มท่องเที่ยว แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากการเดินทางและการท่องเที่ยว ได้แก่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, และบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW