“บล.กรุงศรี” มอง SET สัปดาห์นี้ไซด์เวย์ พร้อมแนะลงทุน 3 หุ้นเด่น

บล.กรุงศรี คาด SET มีจะเคลื่อนไหวในลักษณะ “แกว่งตัวในกรอบ” จากแรงกดดันการเจรจาการค้าระหว่างรัฐบาลไทยกับสหรัฐฯ พร้อมแนะลงทุน 3 หุ้นเด่น คือ CPALL-BJC-BDMS


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้รวบรวมกลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ระหว่างวันที่ 8-11 เม.ย.68 ซึ่งเป็นบทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS คาดการณ์ว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยระหว่างวันที่ 8-11 เม.ย. 2568 จะเคลื่อนไหวในลักษณะ “แกว่งตัวในกรอบ” โดยมีปัจจัยหลักที่ต้องจับตาคือ การเจรจาการค้าระหว่างรัฐบาลไทยกับสหรัฐฯ ซึ่งหากมีความชัดเจนและออกมาในเชิงบวก จะช่วยคลายความกังวลด้านความเสี่ยง (Risk Sentiment) และลดผลกระทบต่อ GDP ของไทย รวมถึงแนวโน้มกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาด นอกจากนี้ยังต้องติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ (CPI) ซึ่งอาจส่งผลต่อนโยบายดอกเบี้ยของเฟด

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้นักลงทุนโฟกัสกลุ่ม Domestic Play และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC, บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC รวมถึงกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง เช่น บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC และหุ้นที่มีภาระหนี้สูงแต่เริ่มฟื้นตัวได้อย่าง CPALL และบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT

โดยหุ้นเด่นประจำสัปดาห์นี้ ได้แก่ CPALL ให้ราคาเป้าหมาย 80 บาท) ที่มีจุดเด่นเรื่องมูลค่าหุ้นต่ำ ความผันผวนต่ำ และมีโอกาสซื้อหุ้นคืน, BJC ให้ราคาเป้าหมาย 30 บาท ที่มี PBV ต่ำกว่า 1 เท่า และลุ้นข่าวซื้อหุ้นคืนเช่นกัน ส่วน BDMS ให้ราคาเป้าหมาย 37.50 บาท) เป็นหุ้นแนวรับ (Defensive) ที่คาดการณ์กำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปีในช่วงปี 2568-2570

สำหรับธีมการลงทุนเดือนเมษายน 2568 แนะนำ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA, BJC, บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO, บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC ขณะที่หุ้นเด่นไตรมาส 2 ได้แก่ BDMS, CPALL, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK, MTC, บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH และ ADVANC

และในกลุ่มหุ้นกลาง-เล็กที่น่าสนใจมี บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH, บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS, บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT, บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW และบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามเพิ่มเติม คือ ความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า ซึ่งจะมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อ “สินทรัพย์เสี่ยง” ทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทย

Back to top button