
CGSI มองกรอบ SET สัปดาห์นี้ 1,050–1,135 จุด ชู MTC-BJC เด่น
CGSI ประเมินตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงกดดันรอบด้าน ทั้งปัจจัยต่างประเทศ-นโยบายการค้าทรัมป์ ดันเศรษฐกิจชะลอ เงินเฟ้อต่ำ-ดอกเบี้ยขาลง ชู 2 หุ้นเด่น MTC-BJC
บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI ประเมินว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวแบบ Sideway Down และยังอยู่ในทิศทางขาลง โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 1,050–1,135 จุด ท่ามกลางแรงเทขายที่อาจเพิ่มขึ้นหลังวันหยุดนักขัตฤกษ์วันจันทร์ที่ผ่านมา
โดยตลาดหุ้นเอเชียปิดลบถ้วนหน้า รับแรงกดดันจากความตึงเครียดของสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงลงหนักที่สุดในภูมิภาค ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นต้องระงับการซื้อขายในตลาดฟิวเจอร์สชั่วคราวจากแรงขายที่รุนแรงจนระบบเข้าสู่ Circuit Breaker
ทั้งนี้ จากการปรับประมาณการเศรษฐกิจภายใต้ผลกระทบของนโยบายภาษี “ทรัมป์” ฝ่ายวิจัยได้ปรับลดประมาณการ GDP ปี 2568 เหลือเพียง 1.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (yoy) จากเดิม 2.3% ที่ถูกลดลงมาแล้วจากผลของแผ่นดินไหว นอกจากนี้ ยังประเมินว่าเงินเฟ้อของไทยจะลดลงเหลือเพียง 0.5% จากปีก่อน ในปี 2568 จากผลของต้นทุนพลังงานที่ลดลง โดยค่าไฟฟ้าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย
ด้านนโยบายการเงิน CGSI คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐานในการประชุมวันที่ 30 เมษายน 2568 และมีแนวโน้มจะลดอีก 3–4 ครั้งภายในปีนี้ เหลือระดับต่ำสุดที่ 1.0% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
ด้านนโยบายระหว่างประเทศ นายกรัฐมนตรีแถลงเมื่อวันที่ 6 เมษายนว่า ได้มีข้อเสนอเชิงนโยบายที่ชัดเจนต่อสหรัฐฯ อาทิ การเพิ่มการนำเข้าด้านพลังงาน อากาศยาน และสินค้าเกษตร ตลอดจนการส่งเสริมการลงทุนของไทยในสหรัฐ เพื่อให้การเจรจาการค้าบรรลุผลมากที่สุด โดยคาดว่าจะมีความคืบหน้าเพิ่มเติมหลังการประชุมร่วมกับคณะกรรมการในวันที่ 8 เมษายนนี้
ทั้งนี้ นักลงทุนควรติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมีนาคมของสหรัฐและจีนในวันพุธ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐล่วงหน้าเดือนเมษายนในวันศุกร์ ขณะที่ประเทศไทยจะประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมีนาคมระหว่างวันที่ 10–15 เมษายน 2568
อีกประเด็นสำคัญคือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor ชั่วคราวระหว่างวันที่ 8–11 เมษายน 2568 เพื่อรองรับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นจากผลกระทบนโยบายภาษีการค้า โดยปรับลดเพดานราคาขึ้น-ลงสำหรับหุ้นและหน่วยลงทุนในตลาด SET และ mai จากเดิม +/-30% เหลือเพียง +/-15% และลด Dynamic Price Band จาก +/-10% เหลือ +/-5% พร้อมทั้งระงับการขายชอร์ต (Short Sell) สำหรับทุกหลักทรัพย์ ยกเว้นเฉพาะ Market Maker
ด้านกลยุทธ์การลงทุน CGSI แนะนำ MTC เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม Non-bank จากมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางดอกเบี้ยขาลง โดยผู้บริหารมั่นใจตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อที่ 15% ในปีนี้ พร้อมแนะนำกลยุทธ์ Trading โดยมีจุด Take Profit ที่ 44.0 บาท และ Stop Loss ที่ 41.75 บาท ขณะที่ BJC (BigC) ได้รับแรงหนุนจากการปรับกลยุทธ์ค้าปลีกที่สาขารัชดา ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว โดยแนะนำ Take Profit ที่ 26.0 บาท และ Stop Loss ที่ 20.5 บาท