
“ทองคำนิวยอร์ก” ปิดลบ 60 เซนต์ หลังนักลงทุนหันถือครอง “สกุลเงินปลอดภัย”
“ทองคำนิวยอร์ก” ปิดที่ 2,973.6 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 61.80 ดอลลาร์ หรือ 2.04% ดอลลาร์ หลังนักลงทุนเทขายทองคำ ปรับถือครองสกุลเงินปลอดภัย วิตกเศรษฐกิจทั่วโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (8 เม.ย. 68) สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันจันทร์ (7 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำและหันไปถือครองสกุลเงินที่ปลอดภัยซึ่งรวมถึงสกุลเงินดอลลาร์ ท่ามกลางความวิตกกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ จะส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 61.80 ดอลลาร์ หรือ 2.04% ปิดที่ 2,973.6 ดอลลาร์/ออนซ์
โดยนักวิเคราะห์จาก Tradu.com กล่าวว่า ราคาทองคำปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนหันไปถือครองสกุลเงินปลอดภัย ซึ่งรวมถึงดอลลาร์สหรัฐฯ ฟรังก์สวิส และสกุลเงินเยนของญี่ปุ่น ท่ามกลางความผันผวนในตลาด และความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเกิดภาวะถดถอย
ขณะที่ โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) ระบุว่า มีโอกาส 45% ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยในอีก 12 เดือนข้างหน้า ขณะที่เจพีมอร์แกน (JPMorgan) คาดการณ์ว่ามีโอกาส 60% ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.24% แตะที่ระดับ 103.267 ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อตลาด เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์