IFA ชี้ TRITN ปรับพอร์ตธุรกิจ! ขายมาดามหลุยส์ ให้ GLOCON เหมาะสม

บริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TRITN แจ้งผ่าน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการ TRITN ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 ได้มีมติอนุมัติให้ TRITN จำหน่ายธุรกิจในการจัดจำหน่าย วางแผนการตลาด และโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ ทั้งหมดภายใต้เครื่องหมายการค้า “มาดามหลุยส์” (MDL) ซึ่งรวมไปถึงเครื่องหมายการค้าและสูตรการผลิตผลิตภัณฑ์ ทั้งหมด (รวมเรียกว่า “ธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว”) ของ บริษัท ไทรทัน รีซอร์สเซส จำกัด (TRS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ของ TRITN ให้แก่ บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOCON ซึ่งมีผู้บริหารของ TRITN เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของ GLOCON คิดเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 150.00 ล้านบาท (เรียกว่า “ธุรกรรมการจำหน่ายกิจการ”) ซึ่ง GLOCON จะชำระให้แก่ TRS ในวันที่มีการซื้อขายเสร็จสิ้นในคราวเดียว โดยที่ TRS จะได้รับเงินสดสุทธิจากการทำรายการไม่ เกิน 100.00 ล้านบาท

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติแต่งตั้ง บริษัท อวานการ์ด แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่อยู่ในบัญชีรายชื่อที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ความเห็นชอบเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับ ธุรกรรมการจำหน่ายกิจการ แก่ผู้ถือหุ้นของTRITN ดังนี้

ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ มีความเห็นว่า การเข้าทำธุรกรรมการจำหน่ายกิจการ มีความสมเหตุสมผลและเป็น ประโยชน์ต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เนื่องจากบริษัทฯ มีข้อจำกัดด้านสภาพคล่อง จากการเข้าถึงแหล่งเงินกู้จาก สถาบันการเงินซึ่งพิจารณารวมทั้งกลุ่มบริษัทฯ ส่งผลต่อความสามารถในการดำเนินธุรกิจก่อสร้างซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ จึงจำเป็นต้องพิจารณาขายทรัพย์สิน โดยพิจารณาในมิติต่าง ๆ ได้แก่ ความจำเป็นของการใช้เงิน และความสมเหตุสมผลของ ราคาในการเข้าทำธุรกรรมแล้ว

รวมถึงการที่บริษัทฯ เข้าทำธุรกรรมรับโอนกิจการทั้งหมดจาก บริษัท บ้านไร่โฮลดิ้ง จำกัด และ ได้มาซึ่งที่ดินเพื่อพัฒนาเป็นโครงการเพื่อการพักผ่อนและการนันทนาการ (Leisure and Entertainment) ภายใต้ชื่อ “The Haven” ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดิน จำนวน 62 แปลง เนื้อที่รวม 732 ไร่ มูลค่าลงทุนพัฒนาโครงการจำนวนไม่เกิน 890.00 ล้านบาท จะเริ่มดำเนินกิจการในปี 2571 ซึ่งในปัจจุบันยังไม่เริ่มเปิดดำเนินกิจการและสร้างกระแสเงินสดหมุนเวียนแก่บริษัทฯ

ดังนั้น บริษัทฯ เห็นว่าการขายกิจการ MDL ภายใต้การดำเนินงานของ TRS ให้ GLOCON จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่บริษัทฯ และผู้ ถือหุ้นของบริษัทฯ ซึ่งภายหลังการเข้าทำธุรกรรมการจำหน่ายกิจการในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ มีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้น จำนวน ไม่เกิน 100.00 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ มีแผนที่จะนำเงินที่ได้รับจากการเข้าทำธุรกรรมการจำหน่ายกิจการไปใช้เป็นแหล่งเงินทุน หมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทฯ ในอนาคต

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้หลักมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่ง ดำเนินการโดย TTEC ซึ่งลักษณะโดยทั่วไปของการดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนเพื่อใช้ในการ ดำเนินธุรกิจ รวมถึงเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้ในสัญญาว่าจ้างรับเหมาก่อสร้างได้เช่น การใช้เงินทุนเพื่อนำไป เป็นเงินมัดจำในการออกหนังสือค้ำประกันแก่สถาบันการเงิน ซึ่งมีระยะเวลาการส่งมอบหนังสือค้ำประกันกำหนดโดยผู้ว่าจ้าง ภายในเดือนกันยายน 2568 จำนวนประมาณ 90 ล้านบาทTTEC จึงจะสามารถเริ่มดำเนินการเข้าพื้นที่ก่อสร้าง หรือสามารถ รับรู้รายได้ตามงวดชำระได้

โดยในปัจจุบันบริษัทฯ ประสบปัญหาด้านสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงมีข้อจำกัดในการ ขอพิจารณากู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน ประกอบกับผลการดำเนินงานที่ขาดทุนสุทธิต่อเนื่อง จึงเป็นการยากที่กลุ่มบริษัทฯ จะ สามารถขอพิจารณากู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินซึ่งพิจารณารวมทั้งกลุ่มบริษัทฯ เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจหลักของกลุ่ม บริษัทฯ

ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จึงมีความจำเป็นในการเข้าทำธุรกรรมการจำหน่ายกิจการ เนื่องจากหากบริษัทฯ ไม่สามารถจัดหา แหล่งเงินทุนหมุนเวียนได้ทันเวลา และก่อให้เกิดเหตุการณ์ใด ที่อาจส่งผลให้ TTEC ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ภายในระยะเวลาที่กำหนดรับเหมาก่อสร้าง จะส่งผลให้บริษัทฯ ต้องชำระค่าปรับให้แก่ผู้ว่าจ้างตามจำนวนที่ระบุไว้ในสัญญา ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่าย อันส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน และอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของบริษัทฯ