ตลท.จี้ AQUA แจงงบปี 67 ขาดทุน 988 ลบ. เสี่ยงสูญเงินมัดจำ 341 ล้านบาท เดดไลน์ 16 เม.ย.นี้

ตลท.ขอให้ AQUA ชี้แจงผลขาดทุน 988 ล้านบาทในปี 2567 และความเสี่ยงจากการสูญเสียเงินมัดจำ 231 ล้านบาทจากการซื้อหุ้น YMC รวมถึงเงินมัดจำ 110 ล้านบาทจาก TPL และ PEER ที่ยังไม่ได้รับคืน หลังยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้า ภายในวันที่ 16 เม.ย.68.


ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอให้บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงบการเงินประจำปี 2567 หลังผู้สอบบัญชีแสดงข้อสังเกตสำคัญเกี่ยวกับรายการทางบัญชีและความไม่แน่นอนต่อการดำเนินงานต่อเนื่องของบริษัท

โครงสร้างการถือหุ้นและการทำรายการของกลุ่มบริษัท

1.การซื้อกิจการที่อาจกระทบเงินมัดจำ โดยบริษัท เอฟเอบี ฟู้ดโฮลดิ้ง จำกัด (FAB) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ AQUA ถือหุ้น 100% ได้ทำสัญญาจะซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท ยามะจัง (ไทยแลนด์) จำกัด (YMC) ซึ่งดำเนินธุรกิจอาหาร ในเดือนสิงหาคม 2567 คิดเป็นมูลค่า 610 ล้านบาท โดยได้วางเงินมัดจำไว้ 231 ล้านบาท หรือคิดเป็น 38% ของมูลค่าการซื้อกิจการ อย่างไรก็ดี FAB ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาซื้อขายหุ้น ซึ่งอาจกระทบต่อการได้รับเงินมัดจำคืนในอนาคต

2.เงินมัดจำจากบริษัทร่วมยังไม่ได้รับคืน โดยบริษัทร่วมของ AQUA ได้แก่ บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) (TPL) และ บริษัท เพียร์ ฟอร์ ยู จำกัด (มหาชน) (PEER) ได้วางเงินมัดจำเพื่อซื้อที่ดินและศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโรงไฟฟ้า ต่อมาได้ยกเลิกโครงการดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รับเงินคืนรวมเป็นจำนวน 110 ล้านบาท

3.ความไม่แน่นอนอย่างมีสาระสำคัญต่อการดำเนินงานต่อเนื่อง  สำหรับในปี 2567 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 988 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 3,188% (ในปี 2566 มีกำไรสุทธิ 32 ล้านบาท) โดยมีปัจจัยหลักจากขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนจำนวน 435 ล้านบาท และรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วม ได้แก่ บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (EP) และ PEER รวม 385 ล้านบาท

รวมถึงขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์และลูกหนี้ รวม 224 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินให้กู้ยืมแก่บริษัท เอธธิคอล กูร์เมต์ จำกัด (EG) ยอดคงเหลือ 128 ล้านบาท ด้อยค่า 74 ล้านบาท, ค่าความนิยมจากการลงทุนในบริษัท เฉลิมภัทร คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งซื้อหุ้น 79% เมื่อเดือนมีนาคม 2566 เป็นเงิน 463 ล้านบาท โดยมีค่าความนิยม 281 ล้านบาท และรับรู้ด้อยค่าค่าความนิยม 30 ล้านบาท, ด้อยค่าลูกหนี้การค้าและลูกหนี้หมุนเวียนอื่น 69 ล้านบาท, ด้อยค่าสินทรัพย์ที่เกิดจากสัญญา 43 ล้านบาท, ค่าเสียหายจากคดีฟ้องร้อง 6 ล้านบาท และขาดทุนจากการจำหน่ายสินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 2 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ AQUA ชี้แจงข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 16 เมษายน 2568 และขอให้คณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบแสดงความเห็นต่อประเด็นที่ผู้สอบบัญชีระบุ ภายในวันที่ 22 เมษายน 2568  และขอให้ผู้ลงทุนใช้วิจารณญาณในการศึกษาข้อมูลงบการเงิน และติดตามคำชี้แจงจากบริษัทอย่างใกล้ชิด

Back to top button