
EGCO รุกใหญ่ไฟสหรัฐ “วินด์ฟาร์ม-โซลาร์” เติมพอร์ต 251 MW
EGCO บุกมะกันซื้อหุ้น 49% โรงไฟฟ้าลม-แสงอาทิตย์เข้าพอร์ตเพิ่มอีก 251 เมกะวัตต์ โครงการ Apex Pinnacle II Member จากปัจจุบันลงทุนโรงไฟฟ้ามะกันไปแล้ว 3 โครงการ รวมกำลังผลิต 1,185 เมกะวัตต์ ผู้บริหารมองสหรัฐฯ เป็นตลาดพลังงานมีศักยภาพสูงและมีพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์แข็งแกร่ง ช่วยหนุนสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนตามเป้าหมาย 30% ภายในปี 73
นางสาวจิราพร ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO เปิดเผยว่า บริษัท EGCO Pinnacle II, LLC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ EGCO ถือหุ้นสัดส่วน 100% ในสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามสัญญาการลงทุนของผู้ถือหุ้น (Equity Capital Contribution Agreement) กับบริษัท Apex Pinnacle II Member, LLC ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท Apex Clean Energy Holdings, LLC เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 เพื่อเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 49% กลุ่มโรงไฟฟ้า Pinnacle ll กำลังผลิตรวม 251 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ ประกอบด้วยบริษัท Downeast Wind, LLC เจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานลม Downeast กำลังผลิต 126 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในรัฐเมน และบริษัท Wheatsborough Solar, LLC เจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Wheatsborough กำลังผลิต 125 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในรัฐโอไฮโอ
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Downeast และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Wheatsborough มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับกลุ่มผู้รับซื้อไฟฟ้าที่มีความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่น่าลงทุน เพื่อซื้อขายไฟฟ้าและใบรับรองการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดย Downeast สามารถจ่ายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดให้กับครัวเรือนมากกว่า 37,000 หลังคาเรือนต่อปี รวมทั้งช่วยสนับสนุนเป้าหมายด้านพลังงานของรัฐเมน ที่มุ่งเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 80% ภายในปี 2573
ขณะที่ Wheatsborough สามารถจ่ายไฟฟ้ารองรับความต้องการของภาคครัวเรือนมากกว่า 21,000 หลังคาเรือนต่อปี และยังช่วยบรรเทาปัญหาระบบสายส่งแรงดันสูงในพื้นที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ปัจจุบันโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้ง 2 แห่ง อยู่ระหว่างการก่อสร้างในขั้นตอนสุดท้าย โดยหุ้นในสัดส่วน 49% ของโรงไฟฟ้าแต่ละแห่งจะถูกโอนให้แก่เอ็กโก กรุ๊ป เมื่อโครงการเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์
อย่างไรก็ตาม การลงทุนกลุ่มโรงไฟฟ้า Pinnacle II จะสร้างการเติบโตเพิ่มขึ้นให้แก่เอ็กโก กรุ๊ป พร้อมทั้งสนับสนุนการต่อยอดและขยายการลงทุนในตลาดพลังงานของสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับกลยุทธ์ “Triple P” ของเอ็กโก กรุ๊ป ที่มุ่งเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการลงทุนโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียนเพื่อสร้างการเติบโตระยะยาว
ขณะเดียวกัน กำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนของโครงการใหม่นี้ จะช่วยสนับสนุนเป้าหมายระยะสั้นของเอ็กโก กรุ๊ป ที่มุ่งบรรลุการเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 30% ของกำลังผลิตไฟฟ้าทั้งหมด ภายในปี 2573
“แม้ว่าขณะนี้ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบในเรื่องการส่งออกไปยังประเทศสหรัฐฯ ค่อนข้างมากจากนโยบายขึ้นภาษี (Reciprocal Tariff) อย่างไรก็ตาม เอ็กโก กรุ๊ป ก็ยังมีพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Partners) ในสหรัฐฯ ที่พร้อมจะร่วมลงทุนโครงการต่าง ๆ ในสหรัฐฯ เพิ่มเติมอีก ถือว่าเอ็กโก กรุ๊ป ยังมีโอกาสในการเติบโตในตลาดพลังงานของสหรัฐฯ” นางสาวจิราพร กล่าว
นอกจากนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ยังมองสหรัฐฯ เป็นตลาดพลังงานที่มีศักยภาพสูง และเอ็กโก กรุ๊ป มีพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Partners) ในสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง และพร้อมจะร่วมลงทุนในโครงการต่าง ๆ เพิ่มเติมอีก ซึ่งถือว่าเอ็กโก กรุ๊ป ยังมีโอกาสในการเติบโตในตลาดพลังงานของสหรัฐฯ อีกมาก ดังนั้นเอ็กโก กรุ๊ป มีแผนเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าในสหรัฐฯ อย่างเหมาะสม โดยจะพิจารณาการลงทุนเมื่อมีโอกาสที่ดี ทั้งด้านผลตอบแทน การบริหารความเสี่ยง การบริหารสินทรัพย์
โดยปัจจุบัน (ณ 8 เม.ย. 2568) เอ็กโก กรุ๊ป มีการลงทุนในสหรัฐฯ แล้วทั้งหมด 3 โครงการ กำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น รวม 1,185.74 เมกะวัตต์ (รวมโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์หรือจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว และโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) ได้แก่
1) ถือหุ้น 28% ในโรงไฟฟ้า Linden Cogen (โรงไฟฟ้าประเภทโคเจนเนอเรชั่นที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ) ในเมืองลินเดน รัฐนิวเจอร์ซีย์ มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 272.16 เมกะวัตต์
2) ถือหุ้น 50% ในกลุ่มโรงไฟฟ้า Compass มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 652 เมกะวัตต์ โดยกลุ่มโรงไฟฟ้า Compass ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ 3 แห่ง ได้แก่ Marcus Hook กำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 456 เมกะวัตต์ ในรัฐเพนซิลเวเนีย Milford กำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 102.50 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในรัฐแมสซาชูเซตส์ และ Dighton กำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 93.50 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในรัฐแมสซาชูเซตส์
3) ถือหุ้น 17.46% ใน APEX ผู้พัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ ซึ่งมีความก้าวหน้าของการลงทุน ดังนี้ โรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว 5 โครงการ กำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นทั้งหมด 114.78 เมกะวัตต์ (Mulligan Solar, Angelo Solar, Big Elm Solar, Great Pathfinder, Timbermill Wind), โรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 6 โครงการ กำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 146.80 เมกะวัตต์ (Angelo Battery Storage, Downeast Wind, Wheatsborough Solar, Great Kiskadee Storage, Prosperity Wind, Coldwater Solar) นอกจากนี้ APEX ยังมีโครงการพลังงานหมุนเวียนที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีกกว่า 200 โครงการ กำลังผลิตรวมกว่า 57,000 เมกะวัตต์
โดยปัจจุบันเอ็กโก กรุ๊ป มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 6,608 เมกะวัตต์ (รวมโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว และโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) โดยมีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนรวม 1,350 เมกะวัตต์ (คิดเป็น 20% ของกำลังผลิตทั้งหมด)