ตลท. เปิดรายชื่อ 16 หุ้นปันผลเด่น! ยีลด์เฉลี่ย 3 ปี ทะลุ 5% ชู RCL สูงสุด 17% ต่อปี

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดโผ 16 หุ้นปันผลแกร่ง ชู Dividend Yield เฉลี่ย 3 ปี สูงเกิน 5% ต่อปี นำโดย RCL, TOP, BANPU และ TISCO เพื่อเป็นทางเลือกลงทุนระยะยาวในภาวะที่ดอกเบี้ย เงินฝากยังอยู่ระดับต่ำต่อเนื่อง


ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน สำหรับบุคคลธรรมดาของธนาคารพาณิชย์อยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ของบริษัทจดทะเบียนไทยสูงประมาณ 1.37 ถึง 2.48 เท่าของอัตราดอกเบี้ยฝากประจำ 12 เดือน ดังนั้นการลงทุนในหุ้นปันผลจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุนระยะยาว

โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มหุ้นปันผลโดยเผยแพร่ดัชนีราคา SET High Dividend 30 (SETHD Index) ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2554 ซึ่งคัดเลือก 30 หลักทรัพย์จาก SET100 Index โดยพิจารณาจากสภาพคล่องสูงอย่างสม่ำเสมอและมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงซึ่งพบว่า

หากพิจารณาผลตอบแทนของการเปลี่ยนแปลงของดัชนีในช่วง 5 ปีย้อนหลัง ที่ผ่านช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัส (COVID-19) พบว่า SETHD Index ให้ผลตอบแทนดีกว่าทั้ง SET Index และ SET100 Index และหากพิจารณาผลตอบแทนของการเปลี่ยนแปลงดัชนีในช่วง 10 ปีย้อนหลัง พบว่า SETHD Index ลดลงน้อยกว่า Index และ SET100 Index

อีกทั้งค่าเฉลี่ยผลตอบแทนจากเงินปันผลในช่วง 3 ปีล่าสุดของทุกหลักทรัพย์ที่องค์ประกอบ SETHD Index อยู่ที่ 5.58% โดยค่าเฉลี่ยฯอยู่ในช่วง 2.45% ถึง 17.03% และพบว่า 16 หลักทรัพย์จากทั้งหมด 30 หลักทรัพย์ มี Dividend Yield เฉลี่ย 3 ปี สูงกว่า 5% ต่อปี โดยมี Dividend Yield เฉลี่ย 3 ปี อยู่ในช่วง 5.43% ถึง 17.03% ดังตารางประกอบ

หากนักลงทุนไม่ต้องการเลือกลงทุนในหุ้นรายตัวในองค์ประกอบของ SETHD Index อาจพิจารณาเลือกลงทุนใน “1DIV” ได้ โดยกองทุนเปิดไทยเด็กซ์ SET High Dividend ETF (1DIV) เป็นหน่วยลงทุนของกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่มีประวัติการจ่ายเงินปันผลดีและสม่ำเสมอ ซึ่งจะลงทุนในตราสารทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิง (ดัชนี SET High Dividend 30 Index)

อีกทั้งในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำอยู่ในระดับต่ำ การเลือกลงทุนในหุ้นปันผลที่ขณะนี้ที่ราคาหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของนักลงทุนโดยอาจเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของ SETHD Index ที่เป็นหลักทรัพย์ที่สภาพคล่องสูงอย่างสม่ำเสมอ และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและต่อเนื่อง หรือเลือกลงทุนใน “1DIV” ที่เป็นหน่วยลงทุนของกองทุนที่เน้นการลงทุนในองค์ประกอบของ SETHD Index

อย่างไรก็ตามการลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆประกอบการตัดสินใจลงทุนด้วย อาทิ ราคาตลาดของหลักทรัพย์ในขณะนั้นเมื่อเทียบกับราคาที่แท้จริง ความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ ภาวะเศรษฐกิจไทยและต่างประเทศ ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน สภาพคล่องในการซื้อขาย จังหวะเวลาในการเข้าลงทุนในหุ้นปันผลนั้น ๆ เป็นต้น

Back to top button