“ศาลปกครองกลาง” ไม่รับคำฟ้อง SPCG ปม “กฟภ.” ยกเลิกโครงการ EEC

SPCG แจงความคืบหน้าคดี “กฟภ.” ยกเลิกโครงการ EEC ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มูลค่า 3.7 พันล้าน ล่าสุดศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้อง แต่บริษัทพร้อมเดินหน้ายื่นศาลแพ่งต่อ


ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG แจ้งผ่าน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าตามที่บริษัทฯ และ บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด (บริษัท เซท เอนเนอยีฯ) ได้ยื่นฟ้องต่อ ศาลปกครองกลาง เรียกร้องค่าเสียหายจาก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ฐานกระทำละเมิดบริษัททั้งสองไว้แล้วนั้น

ในการนี้บริษัทฯ ขอรายงานความคืบหน้าของคดี กล่าวคือ ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้ พิจารณา คงเหลือแต่คดีที่บริษัทฯ ได้ยื่นฟ้อง กฟภ. ต่อศาลยุติธรรม (ศาลแพ่ง) เท่านั้น ซึ่งบริษัทฯ จะแจ้งความคืบหน้าของคดีให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบต่อไป

โดยก่อนหน้านี้ SPCG และ บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด ได้ยื่นฟ้อง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ต่อศาลแพ่ง เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายเป็นมูลค่ารวม 3,716,125,291.08 บาท หลังจาก กฟภ. ได้ยกเลิกข้อตกลงเกี่ยวกับโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อย่างไม่เป็นธรรม

โดยการดำเนินการฟ้องร้องครั้งนี้เป็นผลมาจากการที่ศาลปกครองกลางยังไม่มีคำสั่งรับคำฟ้องของบริษัททั้งสอง และคดีใกล้หมดอายุความ ทำให้ SPCG และ เซท เอนเนอยี ต้องยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งควบคู่กันไปเพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทได้เลิกกิจการบริษัทย่อยจำนวน 2 บริษัท คือ บริษัท สตีล รูฟ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นทางตรงในสัดส่วนร้อยละ 99.99 หยุดกิจการ เนื่องจากความสามารถในการแข่งขัน และจะดำเนินการเลิกกิจการต่อกรมพัฒนา ธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ทั้งนี้ หากดำเนินการเรียบร้อยแล้ว บริษัทฯ จะแจ้งความคืบหน้า ให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบต่อไป

รวมไปถึง บริษัท โซลาร์ รูฟ ไทย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นทางตรงในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ได้จดทะเบียนเลิกกิจการต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ การเลิกกิจการของบริษัทย่อยดังกล่าว ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการของบริษัทฯ แต่อย่างใด

Back to top button