
“ก.ล.ต.” กล่าวโทษ “หมอบุญ” ปกปิดตึ๊งหุ้น THG เตรียมส่ง “ปปง.” ฟันฟอกเงิน
“ก.ล.ต.” กล่าวโทษ "นายบุญ วนาสิน หรือ หมอบุญ" ให้ข้อมูลเท็จปกปิดจำนำหุ้น THG ต่อบก.ปอศ.เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมส่งต่อ “ปปง.” ฟันข้อหาฟอกเงิน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.กล่าวโทษนายบุญ วนาสิน ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กรณีบอกกล่าว เผยแพร่ หรือให้คำรับรองข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อความอันอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวกับ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG และรายงานการดำเนินการต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
สำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อเดือนตุลาคม 2567 และดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติม กรณีการให้สัมภาษณ์ของนายบุญ ผ่านสื่อมวลชนแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 ว่า ตนและครอบครัวไม่เคยนำหุ้น THG ที่ถือไปจำนำหรือกู้เพื่อขอสินเชื่อทั้งในและนอกตลาด ไม่กล้าทำ เพราะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ นั้น แต่จากการตรวจสอบพบพยานหลักฐานที่พิจารณาได้ว่า การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่พบว่านายบุญและบุคคลในกลุ่มวนาสินมีการจำนำหุ้น THG ไว้กับบุคคลหลายรายในจำนวนที่มีนัยสำคัญ และหุ้นดังกล่าวบางส่วนได้ถูกบังคับจำนำไปขายทอดตลาดแล้ว และส่วนที่เหลือมีโอกาสสูงที่จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นของบุคคลอื่น
ดังนั้น โดยที่นายบุญและกลุ่มวนาสินเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ของบริษัท THG การให้สัมภาษณ์ของนายบุญตามที่กล่าวข้างต้น ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ของ THG จะยังคงมีนายบุญและกลุ่มวนาสินเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ THG อันดับ 2 ต่อไป จึงเข้าข่ายเป็นการบอกกล่าว เผยแพร่ หรือให้คำรับรองข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อความอันอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวกับบริษัท THG โดยประการที่น่าจะทำให้มีผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์ หรือต่อการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 240 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ) ซึ่งมีระวางโทษตามมาตรา 296 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน ก.ล.ต. จึงได้กล่าวโทษนายบุญ ต่อ บก.ปอศ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ได้รายงานการดำเนินการตามข้างต้นต่อ ปปง. เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป เนื่องจากความผิดดังกล่าวเป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ทั้งนี้ ภายหลังการกล่าวโทษของ ก.ล.ต. กระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาต่อไปเป็นการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ และการพิจารณาของศาลยุติธรรม ตามลำดับ โดย ก.ล.ต. จะติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดี และจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เพื่อสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ในกระบวนการภายหลัง ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษแล้ว