
“บล.กรุงศรี” มอง SET สัปดาห์นี้ “ไซด์เวย์อัพ” จับตาไทยเจรจาภาษีทรัมป์
บล.กรุงศรี มอง SET สัปดาห์นี้ “ไซด์เวย์อัพ” จับตารัฐบาลไทยเจรจาภาษีสหรัฐ และตัวเลขยอดส่งออก-นำเข้า พร้อมงบการเงินบริษัทจดทะเบียน โบรกแนะหุ้นเด่น SCC, PTTGC และ BJC มองกรอบดัชนีเคลื่อนไหวแนวรับ 1,133-1,120 จุด แนวต้าน 1,176-1,185 จุด
“สำนักข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้รวบรวมกลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ระหว่างวันที่ (21 – 25 เม.ย.68) ซึ่งเป็นบทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ประเมินตลาดหุ้นไทย “ไซด์เวย์-ไซด์เวย์ อัพ” ให้กรอบแนวรับที่ 1,133-1,120 จุด แนวต้าน 1,176-1,185 จุด ซึ่งมีปัจจัยที่ส่งผลต่อดัชนี SET Index ที่ต้องติดตาม คือ ระหว่างวันที่ 21-25 เม.ย. ติดตามรายงานกำไรงวดไตรมาส 1/68 กลุ่มธนาคารที่เหลือ อาทิ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB และ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP
นอกจากนี้วันที่ 23 เม.ย. ติดตามการเจรจา Trade Tariffs ไทยกับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และระหว่างวันที่ 21-26 เม.ย. ยอดส่งออก – นำเข้าประจำเดือนมี.ค. โดยตลาดคาดการณ์ เพิ่มขึ้น 10.7% จากปีก่อนหน้า และ 3.6% จากปีก่อนหน้า เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ตัวเลขส่งออกเพิ่มขึ้น 14% และการนำเข้าเพิ่มขึ้น 4.0%
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตามมีดังต่อไปนี้ ระหว่างวันที่ 23 เม.ย. ติดตามการรายงาน Flash PMI ประจำเดือนเม.ย. 68 ภาคผลิตตลาดคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 50.0 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 50.2 จุด ส่วน Flash PMI ประจำเดือนเม.ย. ภาคบริการตลาดคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 52 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 54.4 จุด
24 เม.ย. ติดตามรายงานคำสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือน มี.ค. ซึ่งคาดการณ์ เพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบระหว่างเดือน ซึ่งเดือนก่อนหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.0% เมื่อเทียบระหว่างเดือน
25 เม.ย. ติดตามรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม. มิชิแกน ประจำเดือน เม.ย. (ครั้งแรก) ไม่มีคาดการณ์ เดือนก่อนอยู่ที่ 50.8 จุด
Housing 23 เม.ย. ยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือน มี.ค. คาดการณ์ 6.83 แสนหลัง เทียบกับเดือนก่อนอยู่ที่ 6.76 แสนหลัง และวันที่ 24 เม.ย. ติดตามยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนมี.ค. คาดการณ์อยู่ที่ 4.13 ล้านหลัง เปรียบเทียบกับเดือนก่อนอยู่ที่ 4.26 ล้านหลัง นอกจากนี้ Trade ระหว่างวันที่ 21 เม.ย. – 25 เม.ย. ติดตามความคืบหน้าแนวทางการดำเนินนโยบายภาษีการค้าสหรัฐฯ รวมถึงความคืบหน้าการ เจรจาทางการค้ากับประเทศคู่ค้าของสหรัฐ
ขณะที่ฝั่งประเทศจีน วันที 21 เม.ย. ติดตามอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีอายุ 1 ปี และ 5 ปี คาดคงไว้ที่อัตรา 3.1% และ 3.6% ตามลำดับ
อีกทั้งแนะนำให้ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากฝั่งยุโรปในสัปดาห์หน้า โดยในวันที่ 22 เม.ย จะมีการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนเมษายน ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ -15.0 จากระดับ -14.5 ในเดือนก่อนหน้า
ขณะที่ในวันที่ 23 เม.ย. จะมีการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (Flash PMI) ประจำเดือนเมษายน โดยในภาคการผลิต คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 47.1 จุด ลดลงจาก 48.6 จุดในเดือนก่อนหน้า ส่วนในภาคบริการ คาดว่าจะปรับลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 50.5 จุด จากระดับ 51.0 จุดในเดือนมีนาคม
ส่วนกลยุทธ์การลงทุน ภายหลังประเมินสัปดาห์หน้า SEI Index เคลื่อนไหว “Sideways-Up” ซึ่งฝ่ายนักวิเคราะห์ประเมินแรงหนุนหลักมาจากพัฒนาการการเจรจาต่อรองมาตรการ Trade Tariffs ของแต่ละประเทศกับสหรัฐฯ ซึ่งล่าสุดสหรัฐฯเริ่มเปิดช่องเจรจาคู่กรณีสำคัญจีน
ขณะที่ไทยมีกำหดการเจรจาวันที่ 23 เม.ย. นอกจากนี้ ติดตามมาตรการประคองเศรษฐกิจประเทศต่างๆ สัปดาห์หน้าจับตานโยบายการเงินธนาคารกลางจีน ประเมินหุ้นนำอยู่ในกลุ่ม มีโอกาสได้ประโยชน์ดอกเบี้ยที่มีโอกาสปรับลง อาทิกลุ่ม เช่าซื้อ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC, บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT โรงไฟฟ้า บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF,บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC
กลุ่มหนี้สูง อาทิ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE
รวมไปถึงกลุ่ม High Yield อาทิ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ผสานกลุ่มที่ได้ประโยชน์และมี Upside การเจรจาการค้าสหรัฐฯ กับประเทศต่างๆ อาทิ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC, บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP และหุ้น China Plays อาทิ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL,บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC
สำหรับหุ้นเด่นประจำสัปดาห์ฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนำ คือ SCC โดยประเมินท่าทีจีนและสหรัฐฯ ที่เปิดกว้างเจรจามากขึ้นเป็นแรงสนับสนุน แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 175 บาท, PTTGC คาดการณ์ผลบวกต่อต้นทุนจากไทยเตรียมนำเข้าก๊าซ LNG จากสหรัฐฯ เพิ่มแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 28 บาท และ BJC ฝ่ายนักวิเคราะห์มองเป็นหุ้น Deep Value พร้อมคาดการณ์ยอดขายสาขาเดิมกลับมาอยู่ในทิศทางบวกตั้งแต่ต้นปี แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 30 บาท