“เงินบาท” เปิดอ่อนค่า 33.21 บ. นักลงทุนจับตาการเมืองสหรัฐ-เศรษฐกิจโลก

“ค่าเงินบาท” เปิดเช้าอ่อนค่าแตะ 33.21 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังนักลงทุนกังวลสหรัฐฯ แทรกแซงเฟด ขณะดัชนี LEI สะท้อนสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก


ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้ (22 เมษายน 2568) เปิดตลาดที่ระดับ 33.21 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวานที่ 33.11 บาทต่อดอลลาร์ จากแรงกดดันด้านจิตวิทยาตลาด หลังนักลงทุนทั่วโลกเริ่มลดความเชื่อมั่นต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

ปัจจัยกดดันหลักมาจากท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ออกมาโจมตีการทำงานของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) โดยขู่ว่าจะปลดออกจากตำแหน่งหากไม่ดำเนินนโยบายลดอัตราดอกเบี้ย และแสดงความไม่พอใจต่อการที่เฟดชี้ว่ามาตรการภาษีของทรัมป์จะส่งผลให้เงินเฟ้อปรับสูงขึ้น กระทบเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างแรงกระเพื่อมต่อตลาดการเงินโลก และกระตุ้นแรงขายสินทรัพย์ดอลลาร์จากนักลงทุนต่างชาติ

นอกจากนี้ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ (Leading Economic Index: LEI) ที่จัดทำโดย Conference Board ของสหรัฐฯ ปรับตัวลงถึง 0.7% ในเดือนมีนาคม สูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลงเพียง 0.5% สะท้อนความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจากสงครามการค้าและคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมที่ลดลง

โดยตลาดไทย นักลงทุนต่างชาติยังคงมีสถานะขายสุทธิในหุ้นไทยมูลค่า 2,237 ล้านบาท ขณะเดียวกันกลับเข้าซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทยถึง 7,599 ล้านบาท สะท้อนความต้องการสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ตลาดจับตาในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและบริการขั้นต้นเดือนเมษายนในสหรัฐฯ และยุโรป รวมถึงรายงาน Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐฯ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนเมษายน

พร้อมแนะนำกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ในช่วง 33.00–33.40 บาทต่อดอลลาร์ โดยกลยุทธ์คือทยอยเข้าซื้อเมื่อเงินบาทแข็งค่าที่ระดับ 33.00 และขายเมื่ออ่อนค่าใกล้ 33.40 ขณะที่ค่าเงินสกุลอื่นๆ เช่น EUR/THB อยู่ในกรอบ 38.00–38.40, JPY/THB ที่ 0.2330–0.2380 โดยแนะนำกลยุทธ์ซื้อที่ระดับล่างและขายที่ระดับบนเช่นกัน

Back to top button