“กัณฑรา” ชี้ SET ไซด์เวย์ รอผลประชุมกนง. 30 เม.ย.นี้ แนะเก็บ OSP-GULF

นายกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา มองหุ้นไทยยังแกว่งตัวในกรอบ รอนโยบายดอกเบี้ยชัดเจนจาก กนง. วันที่ 30 เม.ย.68 แนะทยอยสะสมหุ้นเด่น OSP-GULF รับปัจจัยบวกเฉพาะ


นายกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันที่ 25 เมษายน 2568 ว่า ภาพรวมตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่อยู่ในทิศทางที่ดี ยกเว้นตลาดหุ้นสิงคโปร์ที่อาจเผชิญแรงกดดันและมีแนวโน้มปรับตัวลดลงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยบวกมากกว่า 1,000 จุด หรือประมาณ 2-3% ต่อวัน

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศได้ และยังมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ลักษณะแบบไซด์เวย์ โดยระดับแนวรับสำคัญในขณะนี้อยู่ที่ 1,146 จุด ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญในอดีต การที่ดัชนียังสามารถยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนว่า ตลาดอาจมีโอกาสฟื้นตัวในระยะถัดไป

สำหรับแนวต้าน นักลงทุนควรจับตาที่ระดับ 1,157 จุด ซึ่งเป็นระดับสำคัญ หากสามารถผ่านได้ มีโอกาสที่ตลาดจะกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง โดยปัจจัยสำคัญที่ตลาดกำลังติดตามคือ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันพุธที่ 30 เมษายน 2568 โดยมีการคาดการณ์ว่าอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมตลาด และส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มที่มีภาระหนี้สินสูง

สำหรับสาเหตุที่ตลาดหุ้นไทยยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้สอดคล้องกับตลาดต่างประเทศ อาจเนื่องมาจากนักลงทุนยังรอความชัดเจนจากผลการประชุม กนง. ดังกล่าว โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันที่อยู่บริเวณระดับต้น ๆ ของ 1,100 จุด ถือว่าเริ่มน่าสนใจในการทยอยสะสมหุ้น โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนที่มีมุมมองการลงทุนระยะกลางถึงระยะยาว เนื่องจากตลาดยังมีความผันผวนและมีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกที่อาจเกิดขึ้นได้

กลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมในช่วงนี้คือ การทยอยเข้าซื้อแบบเป็นไม้ๆ โดยอาศัยจังหวะที่ตลาดอ่อนตัวลง เพื่อลดความเสี่ยงและเฉลี่ยต้นทุนในการลงทุน

สำหรับกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจในช่วงนี้ ได้แก่ หุ้นในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลง โดยเฉพาะบริษัทที่มีภาระหนี้สินต่ำ มีความสามารถในการบริหารต้นทุนทางการเงินได้ดี และมีโอกาสฟื้นตัวเมื่อสภาพคล่องในระบบเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ หุ้นเด่นที่แนะนำในเดือนเมษายน ได้แก่ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐานที่ 24 บาท คาดการณ์ว่าผลประกอบการในไตรมาส 1/2568 จะทำ New High โดยเติบโตประมาณ 25%

ขณะที่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในช่วงราคาบริเวณ 44-45 บาท โดยมีราคาพื้นฐานอยู่ที่ 57-58 บาท ซึ่งได้ประโยชน์จากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมัน และแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ยจากภาระหนี้ที่สูง

ขณะเดียวกัน ประเด็นที่ต้องติดตามเพิ่มเติมคือ การเปิดขายกองทุน Thai ESGX Fund ซึ่งจะเริ่มในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยคาดว่าจะช่วยรองรับแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ผลกระทบในเชิงปริมาณจะขึ้นอยู่กับยอดเงินที่ไหลเข้าสู่กองทุน นักลงทุนจึงควรพิจารณาความคุ้มค่าในการลงทุนในกองทุนดังกล่าว เปรียบเทียบกับการลงทุนรายตัว เนื่องจากราคาหุ้นหลายตัวในตลาดยังคงมีส่วนต่างจากมูลค่าพื้นฐานอยู่พอสมควร

Back to top button