
“เจพีมอร์แกน” ชี้ “ดาต้า เซ็นเตอร์” อาเซียนแกร่ง ชู GULF-GPSC-BGRIM เด่น
J.P.Morgan มองความต้องการ “ดาต้า เซ็นเตอร์” อาเซียนเติบโตแรง ชู “ไทย-มาเลย์” ขึ้นแท่นเป้าหมายใหม่ของ Hyperscalers พร้อมแนะลงทุน GULF-GPSC-BGRIM เด่น
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (25 เม.ย.68) J.P. Morgan เปิดเผยว่า ความต้องการศูนย์ข้อมูลภายใน อาเซียน ยังคงมีอยู่อย่างแข็งแกร่ง พร้อมการปรับจัดสรรใหม่บางส่วนของอุปทาน หลังจากสนทนากับ DC Byte ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลตลาดศูนย์ข้อมูลระดับโลกสำหรับธุรกิจ
โดยรายงานวิจัยของ J.P. Morgan ระบุว่า ความต้องการใช้บริการศูนย์ข้อมูลในภูมิภาคอาเซียนยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง โดยมีการลงทุนตั้งศูนย์ข้อมูลในตลาดหลักอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เริ่มมีการปรับโครงสร้างการจัดสรรอุปทานในกลุ่มผู้ให้บริการ คลาวด์ รายใหญ่ของสหรัฐฯ (US hyperscalers) ซึ่งอาจส่งผลให้พื้นที่ใช้งานในบางโซนมีขนาดเล็กกว่าที่วางแผนไว้ และอาจเกิดความล่าช้าใน โครงการที่ยะโฮร์ (มาเลเซีย) และ จาการ์ตา (อินโดนีเซีย)
ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างการจัดสรรศูนย์ข้อมูล ซึ่งในอดีตมักเกิดขึ้นเป็นระยะทุก 2–3 ปี อาจสะท้อนถึงผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความไม่แน่นอนในปัจจุบัน รวมถึงการประเมินสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานใหม่ ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการออกแบบและการใช้งานศูนย์ข้อมูล
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการปรับตัวดังกล่าว แนวโน้มความต้องการใช้ศูนย์ข้อมูลในระยะข้างหน้ายังคงแข็งแกร่ง เพราะส่วนใหญ่ของความสามารถในปัจจุบันไม่ได้เกี่ยวข้องกับ AI และความต้องการที่มากขึ้นจะขับเคลื่อนความจำเป็นในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
ขณะที่ หากมองไปที่ ประเทศสิงคโปร์ พบว่า มีอัตราการเช่าศูนย์ข้อมูลที่ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 400 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ต่อเดือน เนื่องจากอัตราว่างของการใช้งานที่ต่ำมาก ในทางตรงกันข้าม อัตราการเช่าศูนย์ข้อมูลในอาเซียนมักต่ำกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐ โดยที่ยะโฮร์อยู่ที่ระหว่าง 80-120 ดอลลาร์สหรัฐ ด้านมาเลเซียอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยต้นทุนการก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพอยู่ที่ประมาณ 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเมกะวัตต์ เมื่อเทียบกับต้นทุนในภูมิภาคที่ประมาณ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเมกะวัตต์
ส่วน กรุงกัวลาลัมเปอร์ ยังคงเป็นศูนย์กลางหลักสำหรับการใช้งานภายในประเทศและรองรับธุรกิจแบบดั้งเดิม ยะโฮร์กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วสู่การเป็นศูนย์กลางด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) แห่งใหม่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยออกแบบมาเพื่อรองรับการขยายตัวและการใช้งานของผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ (hyperscalers) โดยเฉพาะ
ความต้องการจากจีนยังคงแข็งแกร่งในพื้นที่นี้ สะท้อนให้เห็นจากจำนวนคำขอเสนอราคาใหม่และการลงนามในสัญญาเช่าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยมีการประกาศจาก ByteDance ซึ่งแสดงถึงแผนการลงทุนและการพัฒนาโครงการศูนย์ข้อมูลเพิ่มเติมในประเทศมาเลเซีย
ขณะเดียวกัน ในประเทศไทย การพัฒนาและก่อสร้างศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการลงทุนขนาดใหญ่ อาทิ การประกาศของ TikTok ในการลงทุนมูลค่า 8.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงกิจกรรมจากผู้ให้บริการรายอื่น เช่น การเริ่มต้นโครงการก่อสร้างของ STT GDC และการเปิดศูนย์ข้อมูลแห่งที่สองของ Alibaba Cloud
ขณะเดียวกัน GDS ก็กำลังดำเนินการก่อสร้างศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่แข็งแกร่งจากลูกค้าทั้งในสหรัฐฯ และจีน โดยมีความเคลื่อนไหวที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)