
เทรดวอร์เดือด! “จีน” เลิกนำเข้าเนื้อหมูสหรัฐ 12,000 ตัน หันจับมือ “ยุโรป”
“จีน” ยุติการสั่งซื้อเนื้อหมูสหรัฐฯ 12,000 ตัน ซึ่งนับเป็นครั้งใหญ่สุดนับแต่โควิด-19 พร้อมหันสร้างพันธมิตรการค้าใหม่กับยุโรปแทน
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ว่า จีนได้ยกเลิกคำสั่งซื้อเนื้อหมูจากสหรัฐฯ จำนวน 12,000 เมตริกตันเมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา นับเป็นการยกเลิกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองมหาอำนาจ ขณะที่จีนถือเป็นตลาดเนื้อหมูที่ใหญ่เป็นอันดับสามของสหรัฐฯ ในปี 2567 รองจากเม็กซิโกและญี่ปุ่น ด้วยปริมาณนำเข้า 475,000 เมตริกตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ข้อมูลจาก USDA ระบุว่า จีนเป็นผู้ผลิตเนื้อหมูรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยครองสัดส่วนเกือบ 50% ของอุปทานทั่วโลกที่ประมาณ 57 ล้านเมตริกตัน ขณะที่สหรัฐฯ อยู่ในอันดับสามด้วยปริมาณการผลิต 12 ล้านเมตริกตัน คิดเป็นสัดส่วน 11% ของตลาดโลก ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นเป็น 145% เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้จีนตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าสหรัฐฯ เป็น 125%
พร้อมกันนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จีนได้ลงนามในข้อตกลงการค้าสินค้าเกษตรกับสเปนสองฉบับ ซึ่งรวมถึงเนื้อหมูและเชอร์รี่ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้ากับยุโรปในยามที่ความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน สหพันธ์ผู้ส่งออกเนื้อสัตว์สหรัฐฯ (USMEF) ระบุว่า อัตราภาษีนำเข้าเนื้อหมูของสหรัฐฯ ที่กำหนดโดยจีนพุ่งแตะระดับ 172% หลังมาตรการตอบโต้ทางการค้าล่าสุด