GFPT ติดปีกบินสูง! หลัง Q2 กำไรก้าวกระโดดแนวโน้ม Q3/59 ยังโตได้อีก ลุ้นวิ่งแตะเป้า 16 บ.
GFPT กำไร Q2/59 โตก้าวกระโดด! แนวโน้มกำไร Q3/59 ยังโตต่อเนื่อง ลุ้นแตะ 430 ล้านบาท รับช่วง High season-ราคาไก่ในประเทศสูงขึ้น ด้านราคามุ่งสู่เป้า 16 บาท
GFPT กำไร Q2/59 โตก้าวกระโดด! แนวโน้มกำไร Q3/59 ยังโตต่อเนื่อง ลุ้นแตะ 430 ล้านบาท รับช่วง High season-ราคาไก่ในประเทศสูงขึ้น ด้านราคามุ่งสู่เป้า 16 บาท
บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.59 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 380.79 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.30 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 91% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 199.86 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.16 บาทต่อหุ้น
ขณะที่ผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 655.67 ล้านบาท หรือ 0.52 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 418.04 ล้านบาท หรือ 0.33 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวมีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทจากต้นทุนขายและต้นทุนที่ใช้ในการผลิตอาหารสัตว์ลดลง รวมทั้งมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมทั้ง 2 แห่งเพิ่มขึ้น
โดยนักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ส.ค.) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 16 บาท/หุ้น หลัง GFPT รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/59 เท่ากับ 381 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91% จากปีก่อน และ 39% จากไตรมาสก่อน ซึ่งถือว่าสูงกว่าที่คาดก่อนหน้าคิดเป็น 9% เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นและรายได้อื่นๆ ที่สูงกว่าคาด รวมถึงภาระภาษีจ่ายที่ต่ำกว่าคาด ทั้งนี้รายได้รวมถือว่าเป็นไปตามคาด อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 13.8% ซึ่งถือว่าสูงกว่าประมาณการของเราที่ 13% กำไรสุทธิหลังหักภาษีสูงกว่าคาด 13%
โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดได้รับปัจจัยหนุนจากส่วนแบ่งกำไรจากแม็คคีย์และจีเอฟเอ็นที่เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น และภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง ส่วนแบ่งกำไรจากแม็คคีย์และจีเอฟเอ็นเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณยอดส่งออกไก่ปรุงสุกที่เพิ่มขึ้น (7,800 ตันในไตรมาส 2/59 เทียบกับ 7,600 ตันในไตรมาส 2/58 และ 6,500 ตันในไตรมาส 1/59)
ขณะที่แนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 3/59 ที่ 430 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากปีก่อน และ 13% จากไตรมาสก่อน หนุนโดยราคาไก่ในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น (รวมถึงราคาชิ้นส่วนไก่ในประเทศ) ปริมาณยอดส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มสูงขึ้นจากแม็คคีย์ ราคาลูกเจี๊ยบทำสถิติสูงสุดของปีซึ่งราคา ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 16.50 บาท/ตัว ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดแคลนอุปทานลูกเจี๊ยบจากการที่กรมปศุสัตว์ห้ามนำเข้าพ่อแม่ปู่ย่าพันธุ์จากประเทศสหรัฐฯ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกในประเทศไทย
ด้าน ราคาไก่ในประเทศสำหรับที่ตลาดนครปฐมและชลบุรีปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 36-37 บาท/กก. และ 41-42 บาท/กก.ตามลำดับ คาดว่าราคาไก่ทั้งสองตลาดมีแนวโน้มยืนอยู่ในช่วง 40-42 บาท/กก. ตั้งแต่ช่วงเดือนก.ย.-ธ.ค.ของปีนี้ ประเทศจีนก็ประสบปัญหาการตึงตัวของอุปทานลูกเจี๊ยบเช่นเดียวกับประเทศไทย จากการห้ามนำเข้าพ่อแม่ปู่ย่าพันธุ์จากประเทศ
ด้านนักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “เก็งกำไร” GFPT ราคาเหมาะสม 14.50 บาท รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/59 ที่ 381 ล้านบาท +91%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ +39%จากไตรมาสก่อนออกมาดีกว่าคาดการณ์ 10% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 13.8% จากไตรมาส 2/58 ที่ 10.5% เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ลดลง
ทั้งนี้ ยังคงมุมมองเชิงบวกหลังเข้าประชุมกับผู้บริหาร และคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 3/59 จะเติบโตต่อเนื่องทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนเนื่องจากเป็น high season ของธุรกิจ ส่งผลให้ราคาไก่ตั้งแต่ต้นปีจนถึงไตรมาส 3/59 เพิ่มขึ้นเป็น 41-42 บาท/กิโลกรัม จากไตรมาส 2/59 ที่ 36 บาท/กิโลกรัม และยังได้ประโยชน์จากวัตถุดิบราคาต่ำที่อยู่ในสต็อก
ด้าน Valuation น่าสนใจ ซื้อขาย PER2559 ที่ 12.5 เท่า และลดลงเหลือ 11.6 เท่าในปี 60 เทียบกับ CPF ที่ PER2559 ระดับ 15.2 เท่า และ TU ที่ 16.2 เท่า
ขณะที่ราคาหุ้น GFPT ปิดตลาดวานนี้ (10 ส.ค.) อยู่ที่ 13.90 บาท ปรับตัวขึ้น 0.90 บาท หรือ 6.92% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 514.60 ล้านบาท