CK ม้ามืดประมูลงานภาครัฐฯอนาคตสดใส-บ.ลูกหนุนกำไรอื้อ

4 โบรกแห่เชียร์"ซื้อ"CKมองอนาคตสดใส หลังเข้าสู่ช่วงเวลาทองประมูลงานภาครัฐ มองเป็นตัวเต็งคว้างานคาดรายได้ปีนี้สูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท อัพไซด์พุ่งกว่า 24% ราคาเป้าหมาย 40 บาท


4 โบรกแห่เชียร์”ซื้อ”CKมองอนาคตสดใส หลังเข้าสู่ช่วงเวลาทองประมูลงานภาครัฐ มองเป็นตัวเต็งคว้างานคาดรายได้ปีนี้สูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท อัพไซด์พุ่งกว่า 24% ราคาเป้าหมาย 40 บาท

 

ถือว่าเป็นที่น่าจับตาสำหรับบริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK หลังจากประกาศงบไตรมาส 2/59 ออกมา ถือว่าเติบโตโดดเด่นอย่างมาก โดยมีกำไรอยู่ที่1.03 พันล้านบาท เพิ่ม 331% จากปีก่อน และรายได้รวมเพิ่ม 143% จากปีก่อนเช่นกัน

โดยในจำนวนนี้เป็นรายได้จากการก่อสร้าง 2.07 หมื่นล้านบาท และรายได้จากงานส่วนเพิ่ม-เขื่อนไซยะบุรี เข้ามา 1.1 หมื่นล้านบาท ขณะที่รายจ่ายด้านการขายและบริหาร รวมถึงดอกเบี้ยรายจ่ายลดลง

ขณะเดียวกัน แนวโน้มการเซ็นงานใหม่ปีนี้ดีกว่าปีก่อนมาก โดยตั้งแต่ต้นปี CK เซ็นงานใหม่แล้ว 4 โครงการ มูลค่า 2.4หมื่นล้านบาท ได้แก่ งานทางหลวง บางปะอิน โคราช 1.8 พันล้านบาท, งานส่วนเพิ่มไซยะบุรี 1.9 พันลบ, โรงไฟฟ้าย่อย 2.2 พันล้านบาท และโครงการทางหลวง พัทยา มาบตาพุด 727 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าปีก่อน

รวมทั้งบริษัทกำลังรอลุ้นงานเซ็น M&E งานส่วนต่อขยายของสายสีน้ำเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท ในส่วนครึ่งปีหลังนี้ ยังมีงานที่รอประมูลจากภาครัฐกว่า 3.6 แสนล้านบาท จำนวน 3 โครงการคือ รถไฟฟ้าสายสีส้ม สายสีชมพู และสายสีเหลืองมูลค่าราว 1.38 แสนล้านบาท ซึ่ง CK เป็นหุ้นในกลุ่มรับเหมาเพียงตัวเดียวที่มีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศทั้งถนน ระบบราง ประปา และโรงไฟฟ้า สอดคล้องกับแผนการพัฒนาประเทศระยะยาว

ดังนั้นนักวิเคราะห์บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “ทยอยซื้อ” ราคาเป้าหมาย 35 บาทพร้อมทั้งปรับประมาณการกำไรปีนี้เพิ่มขึ้น 14% เป็น 1.78 พันล้านบาท ตามการรับรู้รายได้จากเขื่อนไซยะบุรี โดยครึ่งปีแรกรับรู้แล้ว 1.3 หมื่นล้านบาท ที่เหลือจะทยอยเข้ามาในครึ่งปีหลังจนถึงปีหน้า ด้วยเหตุนี้ จึงปรับเพิ่มรายได้ก่อสร้างขึ้น 35%

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ (19ส.ค.) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 40 บาท โดยมองว่ามีอัพไซด์จากงานในมือเพิ่มขึ้นจากโครงการของภาครัฐที่จะเปิดประมูลในช่วงครึ่งปีหลังปี59  อีกมาก รวมทั้งได้รับประโยชน์จากโครงการที่เพิ่มขึ้นของบริษัทร่วม อย่าง BEM, TTW และ CKP

พร้อมทั้งได้รับประโยชน์จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่จะเปิดในลาวและเมียนมา รวมถึงมีอัพไซด์ต่อราคาเป้าหมาย 23% จากผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/59 ที่แข็งแกร่งหลังรับรู้รายได้ในสัญญางาน ไชยะบุรีเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ได้ปรับประมาณการปี 60-61 เพิ่มขึ้น 11% และ 7% ตามลำดับ จากการปรับสมมติฐานรายได้เพิ่มขึ้น 6% และ 4%

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์บล.โกลเบล็ก ระบุในบทวิเคราะห์ (22ส.ค.) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 38 บาท โดยมองว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/59เพิ่มขึ้น 237%จากไตรมาสก่อน รวมทั้งมองว่าครึ่งปีหลังปี 59 เป็นช่วงเวลาทองของงานประมูลภาครัฐกว่า 3.6 แสนล้านบาท ที่มีงานรอประมูลอยู่ 3 โครงการคือ รถไฟฟ้าสายสีส้ม สายสีชมพู และสายสีเหลืองมูลค่าราว 1.38 แสนล้านบาท และคาดว่าจะมีการเปิดประมูลงานก่อสร้างเพิ่มจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง สุวรรณภูมิเฟส 2 มอเตอร์เวย์และรถไฟรางคู่ มูลค่าราว 2.29 แสนล้านบาท โดยผู้บริหารคาดว่าจะได้งานราว 20% เป็นอย่างน้อยซึ่งจะช่วยเพิ่ม Backlog ของ CK ให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ คงประมาณการกำไรปี 59 ที่ 2.4 พันล้านบาท เติบโต 10% จากปีก่อนเพราะคาดว่ารายได้ปี 59 จะสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทที่ราว 4.7 หมื่นล้านบาท

รวมทั้งนักวิเคระห์บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ (22ส.ค.) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 37 บาท มองแนวโน้มงานประมูลสดใสอย่างมากทั้งจากภาครัฐและบริษัทลูกซึ่งเป็นไปตามแผน โดยนับตั้งแต่ต้นปี 59 ที่ผ่านมา มีการลงนามสัญญาใหม่ไปแล้วราว 2.4 หมื่นล้านบาท (รวมงานส่วนเพิ่มในโครงไซยะบุรี จำนวน 1.94 หมื่นล้านบาท)

หากการเจรจาเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (หัวลำโพ-บางแค และบางซือ-ท่าพระ) ของบริษัทลูกอย่าง BEM ได้สำเร็จจะเพิ่มงานในมือให้กับ CK อีกราว 2.5 หมื่นล้านบาท จากการเป็นผู้วางระบบรถไฟฟ้า ซึ่งจะส่งผลให้ CK รับงานใหม่ในปีนี้ได้ถึง 4.9 หมื่นล้านบาท สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ราว 2.0-2.2 หมื่นล้านบาท

 

โดยล่าสุดราคาหุ้น CK  ปิดตลาดวันจันทร์ที่ผ่านมา (22 ส.ค.) ราคาอยู่ที่ 32.25 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.78 % ด้วยมูลค่าซื้อขาย 178.15  ล้านบาท

 

ทั้งนี้ มองว่าราคาหุ้น CK จะปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง หลังจากเป็นตัวเต็งที่จะคว้างานประมูลภาครัฐที่มีขึ้นในครึ่งปีหลังปี59 นอกจากนี้ยังมีรายได้จากบริษัทร่วมหนุนรายได้และกำไร ด้านราคาหุ้นยังมี อัพไซด์ 24% จากราคาเป้าหมาย 40 บาท

Back to top button