เร่งปั้มผลงานด่วน! 20 หุ้น SET-maiกำไรไตรมาส 2/59 วูบหนักเกิน 50%

เร่งปั้มผลงานด่วน! 20 หุ้น SET-mai นำโดย DTAC,JWD,SRICHA,MODERN, FNS, ASIMAR, SAMART,TRC,PDI,PCSGH,SVOA,AMATA,ICHI,SAMTEL,THRE, CKP,FIRE,ECF,BKD และ JSP กำไรไตรมาส 2/59 วูบหนักเกิน 50%


 “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ SET และ mai ทำกำไรไตรมาส 2/59 ลดลงเกิน 50% แน่นอนแม้ผลงานจะออกมาไม่สดใสตรงนี้ถือเป็นความท้าทายของบริษัทอย่างหนัก ที่จะต้องพิสูจน์ผลงานให้นักลงทุนได้มั่นใจในช่วงเหลือของปีนี้ว่าจะสามารถพลิกฟื้นกลับมามีกำไรเพิ่มขึ้นได้ดังเดิมอีกครั้งหรือไม่น่าติดตาม

โดยหุ้นที่มีกำไรลดลงเกิน 50% มีทั้งหมด 20 ตัว แบ่งเป็นหุ้นตลาดฯ ประกอบด้วย DTAC, JWD, SRICHA, MODERN, FNS, ASIMAR, SAMART, TRC, PDI, PCSGH, SVOA, AMATA, ICHI, SAMTEL, THRE และ CKP และเป็นหุ้นในตลาดฯ mai 4 ตัว ประกอบด้วย FIRE, ECF, BKD และ JSP  

หลักทรัพย์ กำไร Q2/59 กำไร Q2/58 เปลี่ยนแปลง%
ล้านบาท ล้านบาท
 DTAC         141.28   1,375.24 -89.73
 JWD            7.65        73.42 -89.58
 FIRE *            2.38        15.82 -84.96
 SRICHA          27.59      143.40 -80.76
 ECF *            3.98        16.18 -75.40
 MODERN          21.11        80.70 -73.84
 FNS           41.99      154.75 -72.86
 ASIMAR             6.57        22.72 -71.09
 SAMART           88.15      275.23 -67.97
 TRC          21.11        66.30 -68.16
 PDI        100.60      273.60 -63.23
 PCSGH          49.13      126.36 -61.12
 SVOA           21.68        51.27 -57.72
 AMATA         191.81      443.56 -56.76
 ICHI         142.11      325.32 -56.32
 BKD*          30.53        63.69 -52.06
 SAMTEL          60.18      131.07 -54.09
 THRE           75.92      163.27 -53.50
 JSP*        148.65      321.37 -53.74
 CKP          62.00      131.02 -52.68
*หุ้นตลาดฯ mai

 

อันดับ 1 บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.59 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 141.28 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.06 บาท ลดลง 90% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.38 พันล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.58 บาท ทั้งนี้ เนื่องจากรายได้ยอดขายโทรศัพท์และชุดเลขหมายหด 39% ต้นทุนบริหารเพิ่มขึ้น 44%

ขณะเดียวกันผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 1.40 พันลบ. หรือ 0.59 บาทต่อหุ้น ลดลง 61.91% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.37 พันลบ. หรือ 1.55 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้บริษัทได้ปรับแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2559 โดยคาดว่ารายได้จากการให้บริการ โดยไม่รวมค่าเชื่อมต่อเครือข่าย จะลดลงเล็กน้อยจากปีที่แล้ว ในขณะที่บริษัทยังคงประมาณการเงินลงทุนไว้ที่ระดับเดียวกับปีที่แล้ว ประมาณ 20,000 ล้านบาท

 

อันดับ 2 บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.59 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 7.65 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ  0.01 บาทต่อหุ้น ลดลง 89% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 73.42 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.08 บาทต่อหุ้น โดยผลการดำเนินงานมีกำไรลดลง เนื่องจากรายได้ค่าเช่าและรายได้จากการบริการลดลง

ขณะเดียวกันผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 53.67 ล้านบาท หรือ 0.05 บาทต่อหุ้น ลดลง 65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ156.46 ล้านบาท หรือ 0.17 บาทต่อหุ้น

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทคาดว่ารายได้และกำไรจะดีกว่าครึ่งปีแรกที่มีรายได้อยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 53.67 ล้านบาท เนื่องจากแนวโน้มของลูกค้าทั้งลูกค้าที่ให้บริการขนส่งละลูกค้าที่จะเข้ามาเช่าห้องเย็นมีปริมาณเพิ่มขึ้น เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ

 

อันดับ 3 บริษัท ไฟร์วิคเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ FIRE รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.59 มีกำไรสุทธิ 2.38 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.01 บาทต่อหุ้น ลดลง 85% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 15.82 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.05 บาทต่อหุ้น โดยผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวมีกำไรลดลงเนื่องจากต้นทุนค่าวัสดุอุปกรณ์และค่าแรงงานโครงการติดตั้งระบบดับเพลิงในบางโครงการเพิ่มสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

ส่วนผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 15.82 ล้านบาท หรือ 0.05 บาทต่อหุ้น ลดลง 40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 26.19 ล้านบาท หรือ 0.07 บาทต่อหุ้น

บริษัทมั่นใจปีนี้ยอดขายจะเติบโต 15% จากปีก่อนตามเป้าหมาย โดยคาดการเติบโตในช่วงครึ่งปีหลังแนวโน้มดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะจะรับรู้รายได้จากทั้งงานเดิมและสินค้าใหม่ โดยปีนี้มีสินค้าใหม่ที่เริ่มทำตลาด คือ กล้องวงจรปิด ล่าสุดได้รับงานมาแล้วมูลค่าเกือบ 40 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ และต่อจากนี้ก็คาดว่าจะมีคำสั่งซื้อกล้องวงจรปิดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และช่วยสนับสนุนต่อการเติบโตของบริษัท

 

อันดับ 4 บริษัท ศรีราชาคอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SRICHA รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.59 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 27.59 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.09 บาทต่อหุ้น ลดลง 81% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 143.40 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.46 บาทต่อหุ้น โดยผลการดำเนินงานลดลงเนื่องจากรายได้จากการให้บริการ อีกทั้งรายได้จากการรับเหมาก่อสร้างลดลง

โดยผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกมีผลขาดทุนสุทธิ 2.20 ล้านบาท หรือ 0.01 บาทต่อหุ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 240.91 ล้านบาท หรือ 0.78 บาทต่อหุ้น

 

อันดับ 5 บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ ECF รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.59 (รวมบริษัทย่อย) มีผลกำไรสุทธิ 3.98 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.007 บาทต่อหุ้น ลดลง 75%จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 16.18 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.031 บาทต่อหุ้น โดยผลการดำเนินงานมีกำไรลดลงเนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น

ส่วนผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 28.96 ล้านบาท หรือ 0.052 บาทต่อหุ้น ลดลง 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 34.63 ล้านบาท หรือ 0.066 บาทต่อหุ้น

สำหรับทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังตลาดเฟอร์นิเจอร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยช่วยผลักดันให้ยอดขายของบริษัทเติบโตสูง

โดยบริษัทได้วางกลยุทธ์กระตุ้นยอดขายโดยออกผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ เพิ่มช่องทางจำหน่ายในประเทศให้มากขึ้นตามการขยายตัวของโมเดิร์นเทรดต่างๆ ขยายโชว์รูม ELEGA เจาะลูกค้าระดับบน และเจรจากับลูกค้าใหม่ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการนำกลยุทธ์ดังกล่าวมาปรับใช้ ดังนั้น คาดว่าจะทำให้รายได้รวมของบริษัทปีนี้มีการเติบโตตามเป้าหมายที่ 12-15% ไม่รวมการรับรู้รายได้จากธุรกิจอื่นๆ อาทิ ธุรกิจรีเทลซ็อป CanDo และธุรกิจพลังงาน

Back to top button