เกาะกระแส! RJH ลุ้นเปิดทะลุ 21 บ. ฉลุย2 โบรกฯ ชูเป้าสูงปรี๊ด ชี้กำไรโตต่อเนื่อง
เกาะกระแส! RJH ลุ้นเปิดเกิน 21 บ. ฉลุย ด้าน 2 โบรกฯ ชูเป้าสูงปรี๊ด ประสานเสียงชี้กำไรเติบโตต่อเนื่อง มองกำไรกลุ่มการแพทย์สูงสุดในช่วง Q3/59
เกาะกระแส! RJH ลุ้นเปิดทะลุ 21 บาท ด้าน 2 โบรกฯ ชูเป้าสูงปรี๊ด ประสานเสียงชี้รายได้เติบโตต่อเนื่อง มองกำไรกลุ่มการแพทย์จะสูงสุดในช่วง Q3/59
นายแพทย์วชิระ วุฒิกุลประพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทโรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH เปิดเผยว่า ในวันนี้ (1 ก.ย.) หุ้น RJH จะเข้าซื้อขายเป็นวันแรก มีความเชื่อมั่นว่าราคาหุ้น RJH น่าจะยืนเหนือราคาไอพีโอที่ 16 บาทได้ เนื่องจากราคาดังกล่าวมีส่วนลดให้นักลงทุนพอสมควร ส่วนราคาหุ้นจะร้อนแรงหรือไม่ก็ต้องดูบรรยากาศการลงทุนรวมด้วย คณะผู้บริหารมีความตั้งใจและมุ่งมั่นให้ธุรกิจของโรงพยาบาลราชธานีเติบโตไปข้างหน้าอย่างมั่นคง และหลังจากที่ได้รับเงินจากการระดมทุนเข้ามากว่า 1.1 พันล้านบาท จะยิ่งทำให้ RJH มีศักยภาพและความแข็งแกร่งทั้งในแง่การดำเนินงานและฐานะการเงิน ซึ่งก็คงจะสะท้อนไปกับราคาหุ้น
“ความเชื่อมั่นของนักลงทุนนั้นมาจากความเชื่อมั่นในโอกาสและการเติบโตของบริษัท ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชั้นนำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และภาคกลางตอนล่างที่มีศักยภาพในการแข่งขันที่โดดเด่นและมีความพร้อมที่จะเติบโตต่อไปในอนาคต หลังจากเข้าจดทะเบียนใน SET แล้วคณะผู้บริหารยืนยันว่าจะมุ่งมั่นบริหารงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และจะเดินหน้าขยายงานเพื่อให้ธุรกิจเติบโต” กรรมการผู้จัดการ RJH กล่าว
ด้าน นางสาวพิมพ์ผกา นิจการุณ กรรมการผู้จัดการธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ บล.ธนชาต ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ RJH คาดว่าหุ้น RJH ที่จะเข้าซื้อขายในวันที่ 1 ก.ย. นี้ จะประสบความสำเร็จและให้ผลตอบแทนที่ดีกับนักลงทุน เพราะในช่วงที่เปิดที่จองซื้อหุ้นพบว่านักลงทุนให้ความสนใจอย่างล้นหลาม ประกอบกับหุ้นในกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลได้รับความสนใจจากนักลงทุนอยู่แล้ว
นอกจากนี้ในช่วงที่มีการทำ Book Building นักลงทุนสถาบันให้การตอบรับที่ดีมาก มียอดจองซื้อเข้ามาเกินกว่าจำนวนที่จัดสรรถึง 12 เท่า สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อหุ้น RJH
“RJH ถือเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแกร่ง มีศักยภาพการเติบโตสูง ในอนาคตก็จะมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มลูกค้าเงินสดมากขึ้น จากการสร้างตึกใหม่เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าดังกล่าว ประกอบกับการที่ศูนย์การให้บริการทางการแพทย์ที่ครบวงจร ทำให้แนวโน้มบริษัทยังมีช่องทางในการขยายตัวได้อีกมากหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ เนื่องจากจะสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการให้บริการที่เพิ่มสูงขึ้นได้” นางสาวพิมพ์ผกา กล่าว
อนึ่ง RJH เป็นผู้ดำเนินกิจการโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลราชธานี” และบริษัทย่อย “โรงพยาบาลราชธานีโรจนะ” ขนาดเตียงรวม 353 เตียง เข้าซื้อขายใน SET ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจการแพทย์
ทั้งนี้ RJH เริ่มทำการซื้อขายในวันที่ 1 ก.ย.59 โดยมีจำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. จำนวน 300,000,000 หุ้น และจำนวนหุ้นชำระแล้ว 300,000,000 หุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท ทุนชำระแล้ว 300,000,000 บาท มีจำนวนหุ้นที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 74,999,599 หุ้น ราคา IPO หุ้นละ 16 บาท
สำหรับผลประกอบการของบริษัทปี 58 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 79.19 ล้านบาท ลดลง 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 100.09ล้านบาท ขณะที่ ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/59 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 28.37ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 134% จากงวดเดียวกันของปีมีก่อนมีกำไรอยู่ที่ 12.11ล้านบาท ด้าน 6 เดือนแรกของปี 59 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 70.02ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 102% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรอยู่ที่ 34.62 ล้านบาท
ขณะที่ บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ โดยให้ราคาเป้าหมายของ RJH อยู่ที่ 24 บาท โดย Fair Value ปี 2556 ที่คำนวณได้มี Expected P/E ประมาณ 39 เท่า ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้นโรงพยาบาลที่เฉลี่ยราว 40 เท่า
โดยกำไรกลุ่มการแพทย์จะสูงสุดในช่วงไตรมาสที่ 3 คนไข้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามผลของฤดูกาล ทั้งโรคต่างๆ ที่มากับฤดูฝน และช่วงวันหยุดฤดูร้อนของชาวตะวันออกกลาง บวกกับปีนี้วันถือศีลอด(รอมฎอน) ตกงวดไตรมาส 3/59 เพียง 7 วัน เทียบกับปีก่อนที่ 21 วัน สอดคล้องกับสถิติข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี ตอกย้ำว่าทุกงวดไตรมาส 3/59 ดัชนีของกลุ่มโรงพยาบาลให้ผลตอบแทนชนะตลาดถึง 8 ใน 10 ปี โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 9.78%
สำหรับต้นทุนการแพทย์มีแนวโน้มลดลง หลังจากที่ BOI เริ่มส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจยาเป็นครั้งแรกจากเดิมที่ไม่เคยให้การส่งเสริม กล่าวคือผู้ผลิตยาจะได้รับสิทธิยกเว้นภาษี 8 ปี (ถ้าขอหลังจากนั้นจะได้รับยกเว้น 5 ปี) ขณะที่ธุรกิจผลิตเครื่องมือแพทย์จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเพิ่มจากเดิม 5 ปี เป็น 7 ปี ซึ่งจะส่งผลบวกต่อทุกโรงพยาบาล
ด้าน บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ โดยประเมินราคาเป้าหมายของ RJH ที่ 20 บาท ซึ่งคิดเป็น PE ปี 2559 ที่ 41 เท่า และปี 2560 ที่ 36 เท่า โดยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มเล็กน้อยประมาณ 2-3%
ทั้งนี้คาดว่ากำไรในปี 2559 ที่ 147 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดจะเติบโตได้ต่อเนื่อง 13-15% ในปี 2560-2561 แม้ว่าจะเกิด Dilution หลัง IPO แต่มองว่ากำไรต่อหุ้น (EPS) หลัง IPO จะยังเติบโตได้ถึง 38% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับจุดเด่นของ RJH คือ 1) จำนวนเตียงที่มากกว่าคู่แข่งในอยุธยาถึง 2-3 เท่า2) เป็นโรงพยาบาลเดียวในอยุธยาที่มีศักยภาพในเรื่องการตรวจหัวใจ 3) รายได้ 50% มาจากประกันสังคม ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่ค่อนข้างเข้ามาสม่ำเสมอในทุกปี
ส่วนประเด็นการเติบโตของ RJH ได้แก่ 1) RJH ได้ลงทุนหนักๆ ในช่วงปี 2557-2558 ทั้งในเรื่องของอุปกรณ์การแพทย์และการควบรวมโรงพยาบาลโรจนะเวช (เปลี่ยนชื่อเป็น โรงพยาบาลราชธานีโรจนะ) ซึ่งทำให้ปีนี้จะเริ่มรับรู้ผลประโยชน์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการลงทุน เห็นได้ชัดตั้งแต่ไตรมาส 1/59 รายได้เติบโตถึง 23% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและกำไรสุทธิเติบโตเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว2) ตั้งศูนย์รักษาโรคมะเร็งสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน3) ขยายพื้นที่และเตียงจากตึกใหม่ โดยคาดจำนวนเตียงจะเพิ่มขึ้นถึง 34% จากในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรายหนึ่ง เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่าราคาหุ้น RJH ในการเข้าซื้อขายวันแรกมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวขึ้นสูงถึง 21 บาท เนื่องจาก RJH นั้นเป็นบจ.ขนาดใหญ่ ขณะที่มีแผนการรองรับธุรกิจในอนาคตอย่างมั่นคง ราคาหุ้นน่าจะปรับตัวขึ้นประมาณ 30% จากราคา IPO ที่ 16 บาท