รีบสอย IRPC หลัง UHV เดินเครื่องเต็มสูบ หนุนกำไร 2 พันลบ.ปี- อัพไซด์สูงปรี๊ด

กูรูเชียร์ "ซื้อ" IRPC มองอนาคต Q3/59 สดใสหลังรับรู้รายได้โครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สะอาด (UHV) ที่จะเดินเครื่องเต็มสูบใน ก.ย.นี้ คาดสร้างกำไรถึง 2 พันลบ.ต่อปี ปรับประมาณการกำไรปี 59 ราว 1.1 หมื่นล้านบาท P/E ต่ำกว่ากลุ่มที่ 12.28 เท่าจาก 45.11 เท่า ของกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค อัพไซด์กว่า 37.65% จากราคาเป้าหมาย 6.80 บาท


กูรูเชียร์ “ซื้อ” IRPC มองอนาคต Q3/59 สดใสหลังรับรู้รายได้โครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สะอาด (UHV) ที่จะเดินเครื่องเต็มสูบใน ก.ย.นี้ คาดสร้างกำไรถึง 2 พันลบ.ต่อปี ปรับประมาณการกำไรปี 59 ราว 1.1 หมื่นล้านบาท P/E ต่ำกว่ากลุ่มที่ 12.28 เท่าจาก 45.11 เท่า ของกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค อัพไซด์กว่า 37.65% จากราคาเป้าหมาย 6.80 บาท

พูดถึงหุ้นกลุ่มพลังงานแล้ว ก็คงมองข้าม IRPC ไปไมได้ หลังประการงบไตรมาส 2/59 ออกมาแข็งแกร่งอยู่ที่ 3.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมทั้งโครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สะอาด (UHV) จะเดินเครื่องเต็มสูบในเดือน ก.ย.นี้ ช่วยหนุนกำไรอย่างอู้ฟู้

โดยบล. ไอร่า จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6.80 บาท หลังงบไตรมาส2/59 ยังคงเติบโตแข็งแกร่ง ส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลังผลการดำเนินงานจะออกมาโดดเด่นจากการรับรู้รายได้จากโครงการโครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สะอาด (UHV) ที่เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์วันที่ 16 กค. ที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลดีต่อ IRPC จะสามารถรับรู้รายได้โครงการ UHV ได้ในไตรมาส 3/59 เป็นต้นไป และจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเป็น 200 KBD ในช่วงครึ่งปีหลังปี 59 จากเดิมที่ 180 KBD ซึ่งปัจจุบันราคา propylene ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากโครงการนี้เริ่มมีราคาปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้มองว่าโครงการ UHV จะสามารถเพิ่มกำไรให้กับ IRPC ประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้โครงการต่อไปที่จะทำให้ UHV เสร็จสมบูรณ์คือ โครงการเพิ่มกำลังผลิต Polypropylene จำนวน 160,000 ตันต่อปี ที่จะแล้วเสร็จในปี 60

ขณะเดียวกันบล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมายที่ 5.58 บาท มองว่าบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้และผลกำไรจากโครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สะอาด (UHV) และโครงการส่วนขยายกำลังการผลิต polypropylene (PP) ได้เต็มที่ในปีหน้า หลังจากที่โครงการ UHV ได้เริ่มเปิดดำเนินการผลิตไปในเดือนก.ค. ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตได้ในเดือนก.ย.นี้

ส่วนโครงการขยาย PP อีก 3 แสนตันจะเริ่มได้ในครึ่งปีหลังของปี 60 ซึ่งจะช่วยให้อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงกลั่นและค่าการกลั่นโดยรวม (GIM) ปรับตัวดีขึ้น

นอกจากนี้บล.เคทีบี ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6.30 บาท หลังประกาศกำไรไตรมาส 2/59 เป็นไปตามคาด  และแม้ว่าค่าการกลั่นในปัจจุบันยังมีแนวโน้มที่อ่อนตัวลงต่อเนื่อง แต่คาดว่าโครงการ UHV จะช่วยเพิ่มปริมาณการผลิตและมูลค่าผลิตภัณฑ์จากโรงกลั่นให้มีมูลค่าสูงขึ้น และส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่สูงจะช่วยผลักดันให้กำไรของ IRPC ในช่วงครึ่งปีหลังยั่งยืนในระดับสูงได้

ทั้งนี้ปรับประมาณการกำไรทั้งปีของ IRPC ขึ้นเป็น 10,761 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 14.5% จากปีก่อนซึ่งเป็นผลจากการปรับสมมติฐานส่วนต่างปิโตรเคมีขึ้น (และปรับค่าการกลั่นลง) สะท้อนราคาตลาดปัจจุบันมากยิ่งขึ้น รวมทั้งมองว่ายังจ่ายปันผลทั้งปีได้ระดับสูงที่ 0.26 บาท (dividend yield 5.4%) ในต้นปีหน้า

นอกจากนี้  ยังมีแผนในการขยายการลงทุนในโครงการปลายน้ำเพิ่มเติมโดยบริษัทจะมีการขยายในส่วนของการผลิตเม็ดพลาสติก PP (โดยใช้โอเลฟินส์ขั้นต้นที่ได้จาก UHV) และสายการผลิต PP Compound ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าและสร้างเสถียรภาพด้านกำไรให้กับ IRPC ได้อีกด้วย

 

โดยล่าสุดราคาหุ้น IRPC  ปิดตลาด (1 ก.ย.)  ที่ 4.94 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 2.07% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.03 พันล้านบาท

 

ทั้งนี้ มองว่าราคาหุ้น IRPC ยังสามารถไปต่อได้ หลังรับรู้รายได้โครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สะอาด (UHV) ช่วยหนุนกำไรไตรมาส 3/59 เติบโตแข็งแกร่ง รวมทั้งมีแนวโน้มจ่ายปันผลสูง นอกจากนี้ P/E ต่ำกว่ากลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค  12.28 เท่าจาก 45.11 เท่า

Back to top button