MAJOR เสริฟหนังฟอร์มยักษ์เข้าโรงฟันกำไรอื้อซ่า5 โบรกฯ ไฟเขียว มองราคายังถูก-เป้าสูงสุด 39 บ.

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ได้สำรวจบทวิเคราะห์ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ที่นักวิเคราะห์ฺ 4 สำนักต่างแนะนำซื้อ หลังจากมองว่าบริษัทจะได้เตรียมรับปัจจัยบวกเต็มๆ จากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จะมาระเบิดความมันส์ในครึ่งปีหลังเพียบ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ได้สำรวจบทวิเคราะห์ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ที่นักวิเคราะห์ฺ 4 สำนักต่างแนะนำซื้อ หลังจากมองว่าบริษัทจะได้เตรียมรับปัจจัยบวกเต็มๆ จากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ซึ่งจะมาระเบิดความมันส์ในครึ่งปีหลังเพียบ

ที่สำคัญราคาหุ้นยังถูก โดยเห็นได้จากค่า P/E อยู่ที่ 21.61 เท่า ซึ่งต่ำกว่า P/E กลุ่มบริการ/สื่อและสิ่งพิมพ์ ซึ่งอยู่ที่ 83.05 เท่า อีกทั้งราคาหุ้นมีเป้าหมายสูงสุดถึง 39 บาท และมีอัพไซด์มากถึง 27.87% ตรงนี้น่าก็จะเป็นแรงหนุนให้ราคาหุ้นกลับมาน่าสนใจ และมีโอกาสขึ้นแรงได้อีกครั้ง 

55_1

 

โดยบล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 39 บาท คาดว่ากำไรปกติของ MAJOR ช่วงครึ่งหลังปีนี้จะยังเติบโตได้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าครึ่งปีหลังจะเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่น และจากการเปิดสาขาเพิ่มมากขึ้นจะช่วยหนุนให้กำไรปกติทั้งปี 59 เติบโตราว 17% จากปีก่อน มาที่ระดับ 1,090 ล้านบาทตามประมาณการเดิม เป็นไปตามการขยายโรงภาพยนตร์ใหม่ที่เพิ่มขึ้น 86 โรงในปีนี้ โดย MAJOR อาศัย Digital Platform ช่วยลดขนาดการลงทุนต่อสาขาลง หรือไม่จำเป็นต้องเปิดหลายโรงภาพยนตร์ต่อสาขาเพื่อให้ได้ Economy of Scale กลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้ครอบคลุมในพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น

“แนวโน้มผลประกอบการที่ยังเติบโตได้ดี แม้ภาวะเศรษฐกิจในประเทศจะซบเซา ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 20.9% จากราคาเป้าหมายปี 60 ที่ 39 บาท และคาดให้ Dividend Yield ปีละกว่า 3%  เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ”นักวิเคราะห์ กล่าว 

 

โดยบล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 38 บาท มองว่าแม้ไตรมาส 3/59 ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ต่างประเทศที่น้อยจึงกำไรไตรมาส 3/59 มีแนวโน้มอ่อนตัวลง ก่อนจะกลับมาฟื้นตัวได้ในไตรมาส 4/59 โดยมีโอกาสที่ภาพยนตร์ไทยอย่าง 888  แรงทะลุนรก และ New Year’s Gift  แนวรักโรแมนติกคอมเมดี้ (จาก GDH559) นอกจากนี้ มีประเด็นดีลกับ บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาหุ้น MAJOR ปรับตัวเพิ่มขึ้น

 

ขณะเดียวกัน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 37 บาท มองว่าแม้กำไรไตรมาส3/59 จะชะลอแต่ก็แค่ชั่วคราว  เนื่องจากมีหนังฟอร์มใหญ่น้อยกว่าไตรมาสก่อนก่อนจะดีขึ้นในไตรมาส 4/59 คาดกำไรปกติทั้งปี 59 โต 17% และโตต่อเนื่อง 16% ในปี 60 จากหนังฮอลลีวู๊ดฟอร์มใหญ่ที่จะทำเงินหลายเรื่องมีโปรแกรมเข้าฉาย และการขยายโรงหนังต่อเนื่อง  

นอกจากแนวโน้มรายได้จากตั๋วหนังน่าจะเพิ่มขึ้นมากทั้งจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งจะทำให้รายได้ขายอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งรายได้ค่าโฆษณาดีขึ้นตามไปด้วย ประมาณการกำไรปกติทั้งปี 59 ที่ 1.15 พันล้านบาท โต 17% โดยรวมแผนเพิ่มจำนวนโรงหนังอย่างต่อเนื่องอีกประมาณ 80 โรงโดยเฉพาะในต่างจังหวัด  รวมทั้งคาดขยายโรงหนังอีกประมาณ 85 โรง และระยะยาวมีแผนเพิ่มเป็น 1,000 โรงภายในปี 63                                                                                            

สำหรับบล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “ทยอยซื้อ” ราคาเป้าหมาย 31.50 บาท มองครึ่งปีหลังจะดีจากภาพยนตร์ใหญ่เข้าฉายและจำนวนโรงภาพยนตร์เพิ่มขึ้นโดยมีภาพยนตร์ที่ทำเงินเกิน 100 ล้านบาทแล้ว 3 เรื่อง ขุนพันธ์ – Suicide Squad – แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว เทียบปีก่อน 2 เรื่อง ทำให้ยังเห็นรายได้จากตั๋วภาพยนตร์โตได้ที่ 5-8% จากปีก่อนขณะที่ธุรกิจส่วนอื่นยังคงไปได้ดี สำหรับไตรมาส 4/59 จะเปิดโรงภาพยนตร์อีก 57 โรง โดยรวมคาดครึ่งปีหลังจะยังเห็นการเติบโตจากปีก่อนได้อยู่ และจะมีกำไรจากการขาย PVR เข้ามาอยู่

ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างเตรียมการทำคำเสนอซื้อหุ้น SF อีก 24.11% ในราคา 6.20 บาท ตามที่ประชุมกรรมการของ MAJOR ได้อนุมัติให้เข้าทำคำเสนอซื้อหุ้นบางส่วนของ SF ไม่เกิน 428.35 ล้านหุ้น หรือ 24.11% ที่หุ้นละ 6.20 บาท เมื่อรวมกับที่ถืออยู่เดิมจะเพิ่มเป็น 49% โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ถือหุ้น SF ต้องอนุมัติการทำเสนอซื้อบางส่วนในวันที่ 3 ต.ค. และต้องได้รับการผ่อนผันจาก ก.ล.ต. เงินที่จะใช้เสนอซื้อมูลค่า 2,656 ล้านบาท จะมาจากเงินทุนหมุนเวียนและวงเงินสินเชื่อจากธนาคาร วัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มการลงทุนระยะยาวใน SF และขยายธุรกิจให้มีความหลากหลาย โดย MAJOR จะรับรู้เป็นส่วนแบ่งกำไรตามการเติบโตของ SF ในอนาคต และเกื้อหนุนธุรกิจของ MAJOR ได้ สำหรับวันทำคำเสนอซื้อยังไม่ได้กำหนด 

ด้านราคาหุ้น MAJOR ปิดตลาดวานนี้ (4 ต.ค.) อยู่ที่ 30.50 บาท ปรับตัวขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.83% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 20.13 ล้านบาท

Back to top button