SCI มาแรง Q3 พลิกมีกำไรถล่มทลายโบร์กเชียร์ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายพุ่งปรี๊ด

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ได้สำรวจบทวิเคราะห์ บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) หรือ SCI ที่นักวิเคราะห์หลายสำนักต่างแนะนำ “ซื้อ” ฟันไตรมาส 3 พลิกมีกำไร หลังรับรู้ได้จากงานรับเหมาไฟฟ้าลาว (EDL)-เซ็นสัญญาโครงการสายส่งไฟฟ้ามูลค่า 1.4 หมื่นลบ. มองปี 60 กำไรโตก้าวกระโดดระดับหมื่นล้านบาท


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์  ได้สำรวจบทวิเคราะห์ บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) หรือ SCI ที่นักวิเคราะห์หลายสำนักต่างแนะนำ ซื้อ ฟันไตรมาส 3 พลิกมีกำไร หลังรับรู้ได้จากงานรับเหมาไฟฟ้าลาว (EDL)-เซ็นสัญญาโครงการสายส่งไฟฟ้ามูลค่า 1.4 หมื่นลบ. มองปี 60 กำไรโตก้าวกระโดดระดับหมื่นล้านบาท

นอกจากนี้โบรกยังให้ราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 15.00 บาท อัพไซด์พุ่งถึง 55% เป็นแรงหนุนให้ราคาหุ้นกลับมาน่าสนใจ และมีโอกาสขึ้นแรงได้อีกครั้ง 

 

โดยบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 15 บาท มองไตรมาส 3/59เริ่มเริ่มรับรู้สัญญาEPCใหม่ในลาวช่วยพลิกกลับมามีกำไรหลังจากที่บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา กดดันผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกของปีนี้ รวมมีผลขาดทุนสุทธิ 9 ล้านบาท สาเหตุหลักคือการขาดช่วงของรายได้จากงานรับเหมา ซึ่งสัญญาใหม่ที่บริษัทได้รับสัญญาจากทางรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) ในช่วงพ.ค. ที่ผ่านมา มูลค่า 416 ล้านเหรียญสหรัฐ อายุ 48 เดือน จะสามารถเริ่มรับรู้ได้ตั้งแต่ไตรมาส3/59 เป็นต้นไป และคาดมีอัตรากำไรขั้นต้น 15% ใกล้เคียงกับสัญญาก่อนหน้านับว่าสูงกว่างานลักษณะเดียวกันภายในประเทศที่เฉลี่ยราว 10% จะเป็นปัจจัยเร่งผลการดำเนินงานให้พลิกกลับมามีกำไรได้จากไตรมาสก่อน

โดยคาดกำไรสุทธิงวดไตรมาส3/59 ไว้อยู่ที่ 76 ล้านบาท และจะรับรู้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 24 เดือน ประเมินกำไรสุทธิสำหรับปี 59 เท่ากับ 191 ล้านบาท ปรับลดลง 43.5% จากประมาณการเดิมหลังจากถูกเลื่อนการเข้าทำสัญญาช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้สัดส่วนการรับรู้รายได้ในปีนี้น้อยกว่าที่เคยคาดไว้ อย่างไรก็ดีหากบริษัทสามารถเข้าทำสัญญาส่วนที่เหลือสำหรับงานรับเหมา EPC ในประเทศลาว อีก 2 สัญญา ที่มีมูลค่าถึง 373 ล้านเหรียญสหรัฐได้ภายในสิ้นปี 59 เป็นแรงหนุนให้ผลการดำเนินงานในปี 60 เติบโตอย่างแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น305% จากปีก่อน คิดเป็นกำไรสุทธิเท่ากับ 775 ล้านบาท

รวมทั้งในช่วงปลายปี 59 จะเป็นอีกหนึ่งโอกาสของทางบริษัทที่จะเข้าร่วมยื่นเสนอขายไฟฟ้าสำหรับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตรรอบที่ 2 ขนาด 519 MW ซึ่งจะมีเม็ดเงินไหลเวียนในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนไม่น้อยกว่า 20,000 ล้านบาทเพื่อใช้สำหรับลงทุน โดยบริษัทจะดำเนินการผ่านบริษัทร่วม T Utilities(TU) ที่บริษัทมีสัดส่วนลงทุนร้อยละ 40 ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้และเตรียมการสำหรับการเปิดรับดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มเติมจากการจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้าภายใต้ บริษัทย่อย SCI Enersys ผู้ผลิตและจำหน่ายตู้ควบคุมไฟฟ้าสำหรับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินงานในช่วงกลางปีหน้าและพร้อมที่จะรับคำสั่งซื้อจากโครงการต่างๆที่ได้รับสัญญาซื้อขายไฟจะเป็นส่วนเพิ่มให้กับประมาณการในอนาคต

โดยการเริ่มรับรู้รายได้จากสัญญาฉบับใหม่ที่มูลค่าสูงและจะส่งผลบวกอย่างมีนัยสำคัญต่อบริษัท โดยเฉพาะในเชิงโมเมนตัมของกำไรที่จะกลับมาน่าสนใจในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า ระหว่างการรอเซ็นสัญญาต่อเนื่องกับรัฐวิสาหกิจลาวในอนาคต หลังได้รับความไว้วางใจจากทาง EDL มาโดยตลอด นอกจากนี้บริษัทได้วางแผนปรับโครงสร้างรายได้ให้มั่นคง ด้วยการหาโอกาสลงทุนเพิ่มเติมในโครงการพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศซึ่งในระยะยาวจะเข้ามาเป็นฐานที่แข็งแกร่งนอกเหนือจากธุรกิจเดิม ทางฝ่ายคงแนะนำ “ซื้อ” บนราคาพื้นฐานที่ประเมินไว้สำหรับปี 60 เท่ากับ 15.00 ต่อหุ้น อิงวิธี SOTP เทียบกับ Forward P/E’60 ที่ 14.5 เท่า(ยังไม่รวมส่วนเพิ่มจากโครงการโซลาร์ฟาร์มระยะที่ 2 ที่คาดจะชัดเจนช่วงปลายปี 59)

 

ขณะเดียวกันบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ ระบุในวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 13.50 บาท เผยรอเซ็นสัญญาเพิ่มอีก 12,000 ล้านบาท เป้ารายได้ 10,000 ล้านบาทSCI มีผลิตภัณฑ์และบริการของกลุ่มเป็น 4 ธุรกิจ คือ 1) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายตู้สวิทซ์บอร์ด รางเดินสายไฟและอุปกรณ์รองรับ บริษัทผลิตตู้สวิทซ์บอร์ดหรือตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า (Main Distribution Board MDB) 2) ธุรกิจผลิตเสาไฟฟ้าแรงสูง เสาสื่อสารโทรคมนาคม และโครงสร้างเหล็กชุบกัลวาไนซ์ และบริการชุบสังกะสี 3) ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน-พลังน้ำ (ขนาดเล็ก) และ 4) ธุรกิจการรับเหมาติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงดันสูงและระบบไฟฟ้าจำหน่าย คาดจะพลิกเป็นกำไรได้ในไตรมาส 3 จากการรับรู้รายได้ในโครงการสายส่งไฟฟ้า 500 kV และรอเซ็นสัญญาอีก 2 โครงการมูลค่าประมาณ 12,000 ล้านบาท ช่วยหนุนการเติบโตได้ 3-4 ปีข้างหน้า 

ทั้งนี้คาดจะพลิกเป็นกำไรได้ในไตรมาส3/59 บริษัทได้มีการเซ็นสัญญาโครงการสายส่งไฟฟ้า 500 kV มูลค่ากว่า 14,500 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการ 48 เดือน และคาดว่าจะรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลัง ได้ราว 10% ของมูลค่าโครงการ นอกจากนี้บริษัทเตรียมรอเซ็นสัญญาอีก 2 โครงการ คือ โครงการสายส่งไฟฟ้า 500 kV เฟส 2 มูลค่า 306 ล้านเหรียญฯ และ PDSR Phase 2 มูลค่า 67 ล้านเหรียญฯ หรือคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 12,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ภายใน 2H59 นี้ และจะสามารถเริ่มรับรู้รายได้บางส่วนในปีนี้

โดยประเมินรายได้ปี 59 อยู่ที่ 2,973 ล้านบาท กำไรสุทธิที่ 215 ล้านบาท และรายได้ในปี 2560 อยู่ที่ 9,641 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 735 ล้านบาท หรือคิดเป็น EPS Growth ประมาณ 240% จากการรับรู้รายได้งาน EPC จากทั้งโครงการสายส่งไฟฟ้า 500 kV เฟส 1 และ 2 และ PDSR Phase 2 และคาดว่ารายได้จะอยู่ที่ระดับ 9,000-10,000 ล้านบาทได้อีก 3- 4 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้บริษัทได้มีการร่วมทุนกับ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ในการขยายการลงทุนในระบบสาธารณูปโภคทั้งในและต่างประเทศ โดยจะลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา พลังงานน้ำ เป็นต้น เพื่อให้มีรายได้สม่ำเสมอให้กับบริษัทในอนาคต

 

ด้านราคาหุ้น SCI ปิดตลาดวานนี้(20 ต.ค.) ราคาอยู่ที่ 9.70 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 4.30% มูลค่าซื้อขาย 83.54 ล้านบาท

Back to top button