สอยเลย AAV ยอดผู้โดยสารทะลัก ชูเป็นหุ้น Laggard อัพไซด์พุ่งปรี๊ด
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ได้สำรวจบทวิเคราะห์ของบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่นจำกัด (มหาชน) หรือ AAV ที่นักวิเคราะห์หลายสำนักต่างให้ความสนใจหลังเป็นหุ้นสายการบินที่ได้รับอานิสงค์น้ำมันดิบลดลง และธุรกิจเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น รวมถึงแนวโน้มจำนวนผู้โดยสารไตรมาส 4/59 ยังทะลัก และที่สำคัญยังมีอัพไซด์ถึง 20% จากราคาเป้าหมาย 8.50 บาท
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ได้สำรวจบทวิเคราะห์ของบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่นจำกัด (มหาชน) หรือ AAV ที่นักวิเคราะห์หลายสำนักต่างให้ความสนใจหลังเป็นหุ้นสายการบินที่ได้รับอานิสงค์น้ำมันดิบลดลง และธุรกิจเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น รวมถึงแนวโน้มจำนวนผู้โดยสารไตรมาส 4/59 ยังทะลัก และที่สำคัญยังมีอัพไซด์ถึง 20% จากราคาเป้าหมาย 8.50 บาท
ตารางแสดงคำแนะนำการลงทุน
โดย บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” AAV ราคาเป้าหมาย 8.40 บาท คาดกำไรหลักยังคงเติบโตดีในไตรมาส 3/59 อยู่ที่ 534 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าตัว อยู่ที่ 481%จากปีก่อน และ 26%จากไตรมาสก่อนหน้า หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 32 ล้านบาท กำไรหลักไตรมาส 3/59 คาดว่าจะอยู่ที่ 502 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% จากปีก่อน และ 27% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยปัจจัยหลักเบื้องหลังการเติบโตของกำไรสุทธิ คือ กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเทียบกับการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่บันทึกในไตรมาส 3/58 ขณะที่ปัจจัยหลักเบื้องหลังการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของกำไรหลัก ได้แก่ 1) จำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น 2) ค่าโดยสารเฉลี่ยสูงขึ้น3) ราคาน้ำมันเครื่องบินลดลง และ 4) เครดิตภาษี
นอกจากนี้ แนวโน้มกำไรยังคงเติบโตแข็งแกร่งจากปีก่อนไปจนถึงไตรมาส 4/59 แม้จำนวนผู้โดยสารชาวจีนบางส่วนได้รับผลกระทบจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญของภาครัฐ ทั้งนี้ คาดว่าจำนวนผู้โดยสารของบริษัทในเส้นทางบินในกลุ่มประเทศ CLMV และเส้นทางบินในประเทศที่เติบโตดีจะชดเชยผลกระทบจากผู้โดยสารชาวจีนที่ลดลงได้ นอกจากนี้ ผู้โดยสารชาวจีนส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นนักท่องเทียวอิสระซึ่งมีความอ่อนไหวต่อราคาตั๋วน้อยกว่ากรุ๊ปทัวร์
ขณะที่คาดว่าสถิติการจราจรทางอากาศของไทยแอร์เอเชียจะยังคงมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งจากช่วงเดียวกันในปีก่อนในไตรมาส 4/59 และคาดว่ากำไรหลักของ AAV ในไตรมาส 4/59 จะขยายตัวจากช่วงเดียวกันในปีก่อน ถึงแม้ว่าค่าโดยสารเฉลี่ยจะลดลง อย่างไรก็ตาม คาดว่ากำไรหลักไตรมาส 4/59 จะอ่อนตัว จากไตรมาสก่อน เนื่องจากค่าใช้จ่ายทางด้านภาษีที่สูงขึ้นจากการรับเครื่องบินลำใหม่จำนวน 2 ลำในไตรมาสดังกล่าว
ด้าน บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” AAV ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท โดยคาดว่า AAV จะประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 3/59 ที่ 479 ล้านบาท เติบโต 13.3% จากไตรมาสก่อน และ 420.8% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยมีแรงผลักดันหลักจากตัวเลขด้านการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/59 ที่ดี โดยคาดว่าจะมีรายได้ที่ 8.2 พันล้านบาท เติบโต 5.4% จากไตรมาสก่อน และ 12.7% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เป็นผลจากจำนวนผู้โดยสาร และอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่คาดราคาเฉลี่ยค่าโดยสารที่ 1,578 บาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้วที่ 1,550 บาท โดยคาดกำไรรวม 9 เดือนแรกปีนี้ที่ 1.9 พันล้านบาท เติบโต 138% จากงวดปีก่อน คิดเป็น 77% ของประมาณการทั้งปี 59
ส่วน บล.คันทรี่ กรุ๊ป ระบุในบทวิเคราะห์แนะ “เก็งกำไร”หุ้น AAV รายงานจำนวนผู้โดยสารช่วงไตรมาส 3/59 ที่ 4.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน และ 21% จากงวดปีก่อน ขณะที่ Load Factor อยู่ที่ 84% เพิ่มขึ้นจาก 81% ในปี 58 นอกจากนี้ ราคาหุ้นยัง Laggard กลุ่มสายการบินโดยหุ้นบมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) ปรับขึ้น 27% และ THAI ปรับขึ้น 36% ขณะที่ AAV ปรับขึ้น 16% จากจุดต่ำสุดในเดือนตุลาคม อีกทั้งยังได้โมเมนตัมบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง
ด้านราคาหุ้น AAV ปิดตลาด (1 พ.ย.) ที่ 7.10 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 0.71% มูลค่าซื้อขาย 847.33 ล้านบาท มีอัพไซด์ 19.72% จากราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 8.50 บาท