รู้ก่อนใคร! สปอยงบฯ Q3 กลุ่มรพ.โบรกฯ ฟันธงผลงานแจ่ม-กำไรโต

รู้ก่อนใคร! สปอยงบฯ Q3/59 หุ้นกลุ่มรพ. โบรกฯ ฟันธง 4 หุ้นผลงานแจ่มแจ๋ว-กำไรโตแกร่ง


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจบทวิเคราะห์ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (บจ.) ในกลุ่มผู้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์ และโรงพยาบาลในช่วงที่จะผลประกอบการไตรมาสที่ 3/59 

โดยพบว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานของ บจ.โรงพยาบาลในไตรมาส 3/59 นั้น ส่วนใหญ่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน โดยประเมินกำไรทั้งกลุ่มรวมประมาณ 3.30 พันล้านบาท ขณะที่ในระยะสัปดาห์มูลค่าซื้อขายของหุ้นกลุ่มดังกล่าวมีความหนาแน่นมากขึ้น คาดนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นเพื่อเก็งผลประกอบการที่จะออกมาดี ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า 4 บจ.ที่จะมีผลการดำเนินงานโดดเด่นได้แก่ RJH,CHG,BDMS  และBH

ตารางแสดงผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 (คาดการณ์)


 

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ ว่าผลการดำเนินงานกลุ่มโรงพยาบาลในไตรมาส 3 ปี 2559 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิรวมประมาณ 3.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากงวดเดียวกันปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อนหน้า ในขณะที่มาร์จินคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น ทั้งจากไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว และไตรมาสที่แล้ว

ทั้งนี้หุ้นที่นำมาทำประมาณการ คือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) BDMS, บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) BH, บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) CHG, และบริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) RJH

ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2559 คาดการณ์ว่าจะเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม น่าจะอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี2559 เนื่องจากปัจจัยเรื่องฤดูกาล

ทั้งนี้ได้คาดการณ์กำไรของ BDMS ที่ 2.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากงวดเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 32% จากไตรมาสที่แล้ว ขณะที่คาดว่ากำไรBH จะอยู่ที่ 936 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากงวดเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสก่อนหน้า ,CHG คาดว่าจะมีกำไร 150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากงวดเดียวกันปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 29% จากไตรมาสที่แล้ว และ RJH คาดว่าจะมีกำไร 44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117% จากงวดเดียวกันปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 55% จากไตรมาสก่อนหน้า

 

นอกจากนี้ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กรณีที่BDMS ได้เข้าซื้อโรงพยาบาลเมโยที่ราคา 1.40 พันล้านบาท คาดว่าดีลนี้จะแล้วเสร็จประมาณเดือน ม.ค.2560 โดยข้อดีคือเมื่อซื้อสำเร็จจะให้กำไรตั้งแต่วันแรก และมีอัตราการเติบโตกำไรต่อปีที่ 10% และเพิ่มอัตรากำไร EBITDA ที่ 20-25% ได้ซึ่งเท่ากับโรงพยาบาลเปาโลในปัจจุบัน ซึ่งนับได้ว่า BDMS เข้าใกล้เป้าหมายที่จะมีโรงพยาบาลทั้งหมด 50 แห่งภายในปี 2561 เพราะปัจจุบันมี 43 แห่งแล้ว

นอกจากนี้ยังคาดว่า รายได้ไตรมาส 3 ปี 2559 ของกรุงเทพดุสิตเวชการจะเติบโต 10% จากการไม่มีช่วงเทศกาล Ramadan คนไข้จากต่างประเทศจึงฟื้นตัวดี และคาดการณ์กำไรที่ 2.2 พันล้านบาท

 

ด้านราคาหุ้น BDMS ปิดตลาดวันที่ 2 พ.ย.59 อยู่ที่  22.60บาท ปรับตัวลง 0.20 บาท หรือ 0.88% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 420.40 ล้านบาท ,ราคาหุ้น BH ปิดตลาดวันที่ 2 พ.ย.59 อยู่ที่ 181.00 บาท ปรับตัวขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.28% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 257.60 ล้านบาท ,ราคาหุ้น CHG ปิดตลาดวันที่ 2 พ.ย.59 อยู่ที่ 2.72 บาท ปรับตัวลง 0.06 บาท หรือ 2.16% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 73.15 ล้านบาท และราคาหุ้น RJH ปิดตลาดวันที่ 2 พ.ย.59 อยู่ที่ 23.70 บาท ปรับตัวลง 0.30 บาท หรือ 1.25% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 19.23 ล้านบาท

Back to top button