เก็บเลย MALEE กำไรพุ่งในรอบ 4 ปีอัพไซด์กระฉูด – โกยกำไรระยะยาว
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ฺ ได้ทำการสำรวจบทวิเคราะห์ บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE ที่นักวิเคราะห์หลายสำนักต่างให้ความสนใจ หลังมองกำไรไตรมาส 3/59 สูงสุดในรอบ 4 ปี เติบโตเกือบ 2 เท่าตัว หลังยอดขายพุ่งกระฉูด นอกจากนี้ราคาหุ้นยังมีอัพไซด์สูงกว่า 37%
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ฺ ได้ทำการสำรวจบทวิเคราะห์ บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE ที่นักวิเคราะห์หลายสำนักต่างให้ความสนใจ หลังมองกำไรไตรมาส 3/59 สูงสุดในรอบ 4 ปี เติบโตเกือบ 2 เท่าตัว หลังยอดขายพุ่งกระฉูด นอกจากนี้ราคาหุ้นยังมีอัพไซด์สูงกว่า 37%
ตารางสรุปคำแนะนำจาก 3 โบรกเกอร์
บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 มีกำไรสุทธิ 161.01 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 1.15 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 176% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 58.44 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.42 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ผลการดำเนินงานที่มีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น ขณะที่สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี ทั้งต้นทุนการผลิต ค่าใช้จ่ายในการขาย และต้นทุนทางการเงิน
ขณะที่ผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 413.38 ล้านบาท หรือ 2.95 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 83% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 225.61 ล้านบาท หรือ 1.62 บาทต่อหุ้น
โดย นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 140 บาทมองไตรมาส 3/59 มีผลประกอบการโดดเด่น MALEE มียอดขายและกำไรสุทธิเติบโตอย่างโดดเด่นอีกไตรมาสในไตรมาส 3/59 ขณะที่กำไรสุทธิในสัดส่วน 94.4% ของประมาณการเดิมในปี 59
อัตราส่วนกำไรสุทธิทำสถิติใหม่ที่ 9.1% ในไตรมาส 3/59 เนื่องจากบริษัทมีอัตราการใช้กำลังการผลิตสูงขึ้นรองรับยอดขายที่เติบโตทั้งในไทยและตลาดส่งออก มองเชิงบวกต่อแนวโน้มในปี 59-61 มากขึ้นเพราะยอดส่งออกดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ปรับเพิ่มประมาณการกำไรต่อหุ้น 29-47% ในปี 59-61
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 101 บาท โดย MALEE รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 3/59 มีรายได้อยู่ที่ 1,770 ล้านบาท ทรงตัวจากไตรมาส 2 แต่เพิ่มขึ้น 33% จากปีก่อนด้านกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 35% เพิ่มขึ้นจาก 33.5% ในไตรมาส 2 และ 34% ในไตรมาส 3/58
ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 439 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%จากไตรมาสก่อนและ 14% จากปีก่อนด้านรายได้อื่นอยู่ที่ 4,298 ล้านบาทลดลง 6% จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 18%จากปีก่อนเมื่อรวมกับรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น 70% จากไตรมาสก่อน (แต่ลดลง 11%YoY) กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 3 ล้านบาท รวมแล้ว MALEE รายงานกำไรสุทธิที่ 161 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13%จากไตรมาสก่อนและ 176%จากปีก่อน
นอกจากนี้ ผลประกอบการที่ออกมาเติบโตได้อย่างมากยังคงเกิดจากกลยุทธ์หลักของบริษัทที่หันไปเน้นการส่งออกมากขึ้นโดยเฉพาะที่ประเทศฟิลิปปินส์ (รายได้จากการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 43% จาก 31% ใน ไตรมาส 3/58 และ 37% ในไตรมาส 2/59 รวมถึงรายได้จากการรับจ้างผลิต (Contact Manufacturing Business: CMG) ที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเช่นกันหลังจากมีการเจรจากับลูกค้าใหม่ๆเข้ามาได้ ซึ่งทั้งสองส่วนดังกล่าวเป็นสิ่งที่ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารแม้ว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/58 แต่หากเทียบกับรายได้จะมีสัดส่วนที่ลดลงซึ่งเกิดจากการควบคุมค่าใช้จ่ายทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการทั้งปี 59 คาดว่ามีโอกาสจะออกมาสูงกว่าที่เราประเมินไว้โดยรายได้และกำไรสุทธิเดิมเราประเมินไว้ที่ 6,398 ล้านบาท และ 495 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งในช่วง9 เดือนแรกรายได้และกำไรสุทธิคิดเป็นสัดส่วน 79% และ 83% ตามลำดับ โดยเราอาจจะมีการปรับประมาณการเพิ่มหลังสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทางบริษัทอีกครั้ง
รวมทั้งนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 107 บาท มองยอดส่งออกสดใสเติบโตอย่างก้าวกระโดด จาก 1) กำไรไตรมาส 3/59 สูงสุดในรอบ 4 ปี เติบโต เพิ่มขึ้น 177% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสก่อนหน้า มากกว่าคาดการณ์เดิม จากยอดขายในประเทศและการส่งออกที่เติบโต 2) ต่อยอดธุรกิจร่วมกับ MEGA พัฒนาอาหารเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ 3) โอกาสยอดขายส่งออกเติบโตต่อเนื่องอย่างชัดเจนต่อเนื่องจากลูกค้ารับจ้างผลิตและแบรนด์ MALEE รวมถึงเริ่มบุกตลาดฟิลิปปินส์เอง 4) คาดกำไรสุทธิยังเติบโตต่อเนื่อง ปี 59 ที่ 66% และ 2 ปีข้างหน้าเฉลี่ยปีละ 18%
อีกทั้งมองภาคการส่งออกยังคงสดใสจากน้ำมะพร้าวที่เติบโต และคาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/59 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของน้ำผลไม้ในช่วงจัดเทศกาลปลายปี คาดกำไรสุทธิในปี 59-60 อยู่ที่ 550 ล้านบาท และ 651 ล้านบาท เติบโต 66% และ 18% ตามลำดับ โดยคาดยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 9% จากการออกสินค้าเพิ่มรสชาติใหม่ทุกปี และคาดส่งออกปีนี้จะเติบโต 70%
โดยลูกค้ารับจ้างผลิต (Contract manufacturing :CM) มีออเดอร์เพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากน้ำมะพร้าวเป็นที่นิยมโดยเฉพาะในกลุ่มยุโรป และคาดส่งออกปีหน้าจะเติบโตได้ 20% ต่อเนื่องได้อีกหลังจากบริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัท Monde Malee Beverage (MMBC) ที่ฟิลิปินส์ซึ่งมีฐานช่องทางการจำหน่ายใหญ่ร่วมเปิดตลาดกาแฟกระป๋องในปีนี้และปีหน้ายังมีแผนเปิดตัวอีก 2 ผลิตภัณฑ์
ด้านราคาหุ้น MALEE ปิดตลาดวานนี้ (15 พ.ย.) ราคาอยู่ที่ 102.00 บาท บวก 6.00 บาท หรือ 6.25% มูลค่าซื้อขาย 299.55 ล้านบาท