จัดธีม 20 หุ้นอาหาร-เครื่องดื่มรสชาติยอดแย่!ชูงบฯ Q3 กำไรลด-ขาดทุนเพิ่ม-พลิกขาดทุน

ก่อนหน้านี้ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มมที่ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/59 มีกำไรเพิ่มขึ้น และพลิกกลับมามีกำไรโดดเด่นไปแล้ว

สำหรับครั้งนี้จะขอนำเสนอหุ้นที่มีกำไรลดลง และพลิกขาดทุน รวมทั้งพลิกขาดทุนเพิ่มขึ้น และขาดทุนลดลง เพื่อเป็นข้อมูลให้นักลงทุนได้เห็นทิศทางธุรกิจของหุ้นแต่ละตัวว่ามีผลการดำเนินงานเปลี่ยนแปลงมากน้อยขนาดไหน และเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเข้าลงทุนว่าจะได้ผลตอบแทนดีหรือไม่ในอนาคตได้อีกทาง

โดยหุ้นที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวมีทั้งหมด 20 ตัว โดยแบ่งเป็นหุ้นที่กำไรลดลง 10 ตัว พลิกขาดทุนเพิ่มขึ้น 6 ตัว และพลิกขาดทุน 3 ตัว และอีก 1 ตัวขาดทุนลดลงดังตารางประกอบ

หลักทรัพย์	กำไร Q3/59	กำไร Q3/58
	ล้านบาท
TU	1,594.43	1,812.52
SNP	120.99	191.65
SSF	73.06	75.32
BR	68.56	110.76
TIPCO	45.05	314.29
ICHI	31.91	117.20
CHOTI	30.38	43.61
CFRESH	12.01	133.76
ASIAN	9.67	84.82
SORKON	9.63	27.52
UPOIC	-7.26	-12.38
F&D	-14.91	-7.34
TC	-48.09	62.85
TRUBB	-62.08	-20.32
VPO	-67.95	-47.85
EE	-90.63	-36.04
STA	-90.78	349.77
SST	-100.49	-18.00
KTIS	-117.54	529.17
KBS	-209.99	-88.94

 

สำหรับหุ้นที่มีกำไรลดลง 10 ตัว คือ  TU,SSF,CHOTI,SNP,BR, SORKON,ICHI,TIPCO,ASIAN และ CFRESH โดย 3 อันดับแรกที่มีกำไรลดลงเกิน 50% คือ CFRESH,ASIAN และ TIPCO

โดยบริษัท ซีเฟรชอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ CFRESH รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 มีกำไรสุทธิ 12.01 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.03 บาทต่อหุ้น ลดลง 91% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 133.76 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.29 บาทต่อหุ้นโดยผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวมีกำไรลดลงเนื่องจากรายได้จากการขายลดลง-ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น

 

ส่วนบริษัท ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือASIAN รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 9.67 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.03 บาทต่อหุ้น ลดลง 89% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 84.82 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.23 บาทต่อหุ้นโดยผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวที่ลดลงเนื่องจากบริษัทมีกำไรลดลงเป็นผลมาจากอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้น

 

ด้านบริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPCO รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 45.05 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.09 บาทต่อหุ้น ลดลง 85.66% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 314.29 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.65 บาทต่อหุ้นโดยกำไรในไตรมาส 3/59 ที่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากบริษัทมีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง

 

สำหรับหุ้นที่พลิกขาดทุนเพิ่มขึ้น 6 ตัว คือ  SST,TRUBB,EE,KBS,F&D และ VPO โดย 3 อันดับแรกที่พลิกขาดทุนเพิ่มขึ้น คือ SST,TRUBB และ EE

โดยบริษัท ทรัพย์ศรีไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SST รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 (รวมบริษัทย่อย) มีผลขาดทุนสุทธิ 100.47 ล้านบาท  หรือมีขาดทุนสุทธิ 0.24 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 458% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 18.00 ล้านบาท หรือมีผลขาดทุนสุทธิ 0.04 บาทต่อหุ้น

 

ส่วนบริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TRUBB รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 (รวมบริษัทย่อย) มีผลขาดทุนสุทธิ 62.08 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.09 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 206% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 20.32 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.03 บาทต่อหุ้นโดยผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวพลิกขาดทุนเนื่องจากบริษัทรายได้ลดลง และค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้สูงขึ้น

 

ด้านบริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ EE รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 (รวมบริษัทย่อย) มีขาดทุนสุทธิ 90.63 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.0326 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 151% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 36.04 ล้านบาท หรือมีขาดทุนสุทธิ 0.013 บาทต่อหุ้น

โดยผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวขาดทุนเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีการตั้งบัญชีค่าเผื่อการด้อยค่างานระหว่างก่อสร้างโรงงานผลิตเอทานอล จำนวน 86.66 ล้านบาท ตามมาตรฐานรายงานทางการเงิน

 

ส่วนหุ้นที่พลิกขาดทุน 3 ตัว คือ  KTIS,STA และ TC โดยบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 (รวมบริษัทย่อย) มีผลขาดทุนสุทธิ 117.54 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.03 บาทต่อหุ้น เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 529.17 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.14 บาทต่อหุ้น

โดยผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวที่พลิกขาดทุนเนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการลดลง 1.88 พันล้านบาท เนื่องจากรายได้สายธุรกิจน้ำตาลลดลง

 

ส่วนบริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 (รวมบริษัทย่อย) พลิกขาดทุนมาที่ 90.78 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.07 บาทต่อหุ้น เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 349.77 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.27 บาทต่อหุ้น

 

ด้านบริษัท ทรอปิคอลแคนนิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 (รวมบริษัทย่อย) พลิกขาดทุนมาที่ 48.09 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.15 บาทต่อหุ้น เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 58.11 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.19 บาทต่อหุ้น

โดยผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวที่พลิกขาดทุน เนื่องจากยอดขายไม่ได้เป็นตามเป้าหมาย จากภาวะเศรษฐกิจของคู่ค้าที่ยังชะลอตัว นอกจากนี้ยังได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าและต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการผลิตที่ลดลง

 

ปิดท้ายหุ้นขาดทุนลดลงคือ บริษัท สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน)หรือ UPOIC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 (รวมบริษัทย่อย) ขาดทุน7.26 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.02 บาทต่อหุ้น ลดลง 41.36% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 12.38 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.04 บาทต่อหุ้น

 

อย่างไรก็ตามแม้หุ้นทั้ง 20 ตัว จะมีผลการดำเนินงานไม่สดใส แต่อย่าลืมว่าหุ้นส่วนใหญ่ยังน่าสนใจ ที่สำคัญยังมีแผนงานที่โดดเด่น อีกทั้งโบรกฯเกอร์ส่วนใหญ่แนะนำให้ลงทุน และมีราคาเป้าหมายสูง อาทิ TU, BR, ICHI, TIPCO, STA, TRUBB และ KBS เป็นต้น

 

*อนึ่งข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน