PYLON โลกสวย มองครึ่งหลังปี 60 เป็นคิวทองหวังโกยรายได้อื้อซ่า! รับโครงการภาครัฐ-เอกชน

PYLON โลกสวย มองครึ่งหลังปี 60 เป็นโอกาสทองคว้างานเพียบ หวังโกยรายได้อื้อซ่าจากภาครัฐและเอกชนรับอานิสงส์ผุดรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง


PYLON โลกสวย มองครึ่งหลังปี 60 เป็นโอกาสทองคว้างานเพียบ หวังโกยรายได้อื้อซ่าจากภาครัฐและเอกชนรับอานิสงส์ผุดรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง

นายชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON เปิดเผยผ่านรายการ ข่าวหุ้นเจาะตลาด ออนเรดิโอ ทาง FM 98.5 MHz สถานีข่าวจริง สปริงเรดิโอ ช่วงเวลา 9.30-11.00 น. ถึงกรณีการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม.ประกาศผู้ผ่านการประเมินสูงสุด จากเอกสารด้านคุณสมบัติ-เทคนิค และข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน ทั้งสายสีชมพูและเหลืองไปแล้ว เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น ว่า งานดังกล่าวเป็นเมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่ต้องมีการกระจายและแบ่งงานให้ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างในตลาดหลายๆบริษัทช่วยกันทำ จึงถือเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทที่จะได้รับงานดังกล่าวด้วย

สำหรับค่าแรงนั้น คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 3-4% ของมูลค่างานทั้งหมด ซึ่งกำไรจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการต้นทุนของแต่ละบริษัท อย่างไรก็ตามคาดว่าการเจรจาต่อรองราคาจะจบภายในไตรมาส 1/2560 และประมาณปลายไตรมาส 2/2560 จะเริ่มดำเนินการตอกเสาเข็มได้ ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในการก่อสร้างช่วงครึ่งปีหลังของปี 2560 และอาจจะต้องใช้ระยะเวลาก่อสร้างเป็นปี เนื่องจากเป็นงานภาครัฐที่มีระยะทางค่อนข้างยาว ทั้งนี้หากเริ่มมีการก่อสร้างแล้วนั้น มองว่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในอนาคต โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ตามแนวรถไฟฟ้า

“ไม่อยากให้นักลงทุนมองว่ามีแต่งานภาครัฐอย่างเดียว เมื่อมีงานภาครัฐแล้วมักจะมีการลงทุนภาคของเอกชนในรูปแบบของอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นด้วย ฉะนั้นเราก็ต้องแบ่งกำลังการผลิตไว้รองรับลูกค้ากลุ่มอสังหาฯ ด้วย แต่งานของภาครัฐจะเป็นงานระยะยาว และต้องใช้ระยะเวลานาน ช่วงแรกอาจจะเข้าไปในพื้นที่ที่มันง่ายไม่มีปัญหาอุปสรรค มาร์จิ้นในช่วงนั้นก็อาจจะดี แต่ช่วงหลังต้องรอการเวนคืน รอเคลียร์สาธารณูปโภค ซึ่งช่วงนั้นโปรดักชั่นก็อาจจะลดลง เพราะต้นทุนจะสูงขึ้น เฉลี่ยทั้งโครงการแล้วอาจจะไม่ได้แตกต่างกับโครงการภาคเอกชนมากนัก” นายชเนศวร์ กล่าว

ขณะที่แนวโน้มอุตสาหกรรมในช่วงไตรมาส 4/59 คาดว่าอุตสาหกรรมฐานรากจะฟื้นตัวได้จากโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ที่จะเริ่มก่อสร้าง และงานประมูลขนาดใหญ่ที่ทยอยออกมา ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้กับภาคเอกชนในการลงทุนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ตามแนวรถไฟฟ้า ประกอบกับบริษัทมีความพร้อมที่จะเข้าไปรองรับโอกาสที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยได้ทยอยซื้อเครื่องจักรใหม่จากประเทศจีนประมาณ 30% และได้ขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับงานในปีหน้า โดยกำไรของบริษัทคาดว่าจะเติบโตได้ตามภาวะอุตสาหกรรม

 

ด้านราคาหุ้น PYLON ปิดตลาดวานนี้ (8 ธ.ค.) อยู่ที่  12.30 บาท ปรับตัวขึ้น 0.40 บาท หรือ 3.36% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 74.79 ล้านบาท

Back to top button