LITปักธงปล่อยสินเชื่อปี 60 แตะหมื่นลบ.ชี้ลงทุนภาครัฐหนุน-ซื้ออัพไซด์สูงเกิน40%

LIT ปักธงยอดปล่อยสินเชื่อปี 60 แตะหมื่นล้าน ชี้ลงทุนภาครัฐหนุนคึก พร้อมชุ 4 โบรกฯดังแนะซื้อให้เป้าสูง 16 บาท พร้อมอัพไซด์เกิน40%


LIT ปักธงยอดปล่อยสินเชื่อปี 60 แตะหมื่นล้าน ชี้ลงทุนภาครัฐหนุนคึก พร้อมชุ 4 โบรกฯดังแนะซื้อให้เป้าสูง 16 บาท พร้อมอัพไซด์เกิน40%

กลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงินถือเป็นแหล่งเงินทุนที่สำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศให้เติบโตไปได้ โดยบริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) หรือ LIT ถือเป็นหุ้นในกลุ่มธุรกิจการเงินที่น่าจับตารายหนึ่ง

เนื่องจากบริษัทเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อแก่กลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมที่มีข้อจำกัดในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน โดยแบ่งบริการเป็น 4 ประเภท คือ สินเชื่อสัญญาเช่าทางการเงินหรือลิสซิ่ง สินเชื่อสัญญาเช่าซื้อ สินเชื่อการรับโอนสิทธิเรียกร้องหรือแฟคตอริ่ง และบริการเสริมอื่นๆ เช่น สินเชื่อเพื่อการจัดหาหนังสือค้ำประกันซอง สินเชื่อเพื่อสนับสนุนโครงการ และบริการจัดหาสินค้า

ทั้งนี้แม้ธุรกิจจะจับกลุ่มลูกค้าขนาดกลางและย่อม แต่ด้วยแผนงานและตัวเลขผลประกอบการที่ออกมาดี ถือเป็นตัวช่วยการันตีทิศทางธุรกิจบริษัทให้ดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องและโดดเด่น

โดยเฉพาะแนวโน้มกำไรสุทธิปี 60 ยังเติบโตดี จากเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านบาท จากปี 59 คาดว่าปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 8 พันล้านบาท โดยบริษัทจะเน้นการเติบโตของธุรกิจใหม่ไปที่การเพิ่มปริมาณสินเชื่อแฟคตอริ่ง และสินเชื่อเพื่อออกหนังสือค้ำประกันซองประมูล (Bid Bond) ที่น่าจะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการลงทุนภาครัฐ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานที่จะคึกคักมากขึ้นในปีนี้ ตรงนี้น่าจะทำให้ LIT ได้รับอานิสงส์เชิงบวกอีกราย

ที่สำคัญบรรดาโบรกเกอร์ชั้นนำต่างประสานเสียงแนะซื้อหุ้น LIT และให้ราคาเป้าหมายแตะระดับ 16 บาท พร้อมอัพไซด์สูงเกิน 40% ตรงนี้น่าจะเป็นแรงหนุนให้ราคาหุ้นที่ย่อตัวลงมาระยะนี้น่าจะเป็นโอกาสเข้าเก็บหุ้นอีกครั้ง

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะหว่า คาดกำไรสุทธิของ LIT ในปี 60 จะเติบโต 24% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 125 ล้านบาท จากแนวโน้มต้นทุนการเงินที่ลดลง และสินเชื่อโครงการ (Project Finance) และ Bid Bond ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงกว่าสินเชื่อประเภทอื่น ๆ ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่เป้าหมายของ LIT ปี 60 ยังเป็นเป้าหมายเชิงรุก โดยตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านบาท และมียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท หรือเติบโตราว 22% จากปีก่อน ซึ่ง LIT เน้นการเติบโตของธุรกิจใหม่ไปที่การเพิ่มปริมาณของธุรกิจแฟคตอริ่ง และธุรกิจ Bid Bond ที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการลงทุนภาครัฐ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานที่จะคึกคักมากขึ้นในปีนี้ ส่วนธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ LIT จะเน้นการปล่อยในระยะกลาง-ยาวมากขึ้นเพื่อให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายคงที่

 

บล.เอเซีย พลัสระบุในบทวิเคราะหว่า แนวโน้มกำไรสุทธิของ LIT ในปี 60 จะเติบโต 25.5% จากปีก่อน เป็นผลมาจากการเติบโตของสินเชื่อใหม่ที่ LIT ตั้งเป้าหมายจะปล่อยเพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านบาทในปี 60 จากปี 59 ที่คาดว่าการปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 8 พันล้านบาท หลังมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และอยู่ในกลุ่มลูกค้าสถาบันการเงินที่เน้นความรวดเร็วในการอนุมัติสินเชื่อ

อีกทั้ง LIT ยังมีโอกาสที่จะขยายไปสู่กลุ่มสินเชื่ออื่น ๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโต ได้แก่ กลุ่ม OTOP และกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ที่มีคู่ค้าทางธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับลูกหนี้การค้าที่บริษัทรับซื้อในปัจจุบัน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับคุณภาพสินทรัพย์ของ LIT ทั้งนี้ปัจจัยเกี่ยวกับการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่จะทยอยเกิดขึ้นในปีนี้ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตของผลการดำเนินงานของ LIT ในปีนี้อย่างมีนัยสำคัญ

 

บล.เออีซีระบุในบทวิเคราะหว่า คาดกำไรสุทธิของ LIT ในปี 60 เติบโต 36.5% จากปีก่อน จากแนวโน้มยอดปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น โดย LIT ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ในปีนี้อยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท จากการรุกธุรกิจสินเชื่อแฟคตอริ่ง ที่ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก และธุรกิจสินเชื่อ Bid Bond หลังรัฐบาลปรับเปลี่ยนวิธีการประมูลจาก E-Auction เป็น E-Bidding ซึ่งช่วยเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี

นอกจากนี้ LIT ยังเตรียมเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อประเภทเช่าซื้อและเช่าการเงินจากภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ นอกเหนือจากไอที เพื่อให้สามารถครอบคลุมต้นทุนคงที่จากการปล่อยสินเชื่อระยะยาว รวมถึงเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อโครงการให้มากกว่า 35% ของพอร์ตสินเชื่อรวม

โดยจะยังคงเลือกลูกค้าที่มีประวัติชำระดีมาใช้บริการ เพื่อรักษาอัตราผลตอบแทนควบคู่กับการบริหารความเสี่ยง อีกทั้งการควบคุมคุณภาพหนี้ยังมีประสิทธิภาพที่ดี และมีความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อในระดับหนึ่ง ขณะที่คาดว่าการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของ LIT ในปีนี้จะอยู่ที่ 2.75-3% จากปีก่อนที่ 2.5% ของลูกหนี้คงเหลือหลังหักประกัน

Back to top button