ช้อป 8 หุ้นมงคล ยอดขายกระฉูดรับเทศกาลตรุษจีน

ช้อป 8 หุ้นมงคล กลุ่มอาหาร-สายการบิน-โรงแรม เตรียมเด้งรับยอดขายกระฉูดเทศกาลตรุษจีน ประกอบด้วย CPF-GFPT-BR-AOT-BA-AAV-CENTEL-MINT

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการคัดเลือกบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ทั้ง SET และ mai ที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากเทศกาลตรุษจีน ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 25-28 ม.ค.นี้ เนื่องจากในเทศกาลดังกล่าวจะมีการเฉลิมฉลอง ประชาชนจะจับจ่ายใช้สอยอาหาร, เครื่องดื่ม, เครื่องอุปโภคบริษัทต่างๆ เพื่อนำมาเป็นของไหว้ รวมถึงจะมีนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว ทำให้ธุรกิจด้านสายการบินและโรงแรมได้รับผลดีไปด้วย

ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2560 เป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน ความต้องการใช้ธนบัตรของประชาชนอยู่ในเกณฑ์สูงกว่าปกติ โดยคาดว่าธนาคารพาณิชย์จะมีการเบิกจ่ายธนบัตรเป็นมูลค่าสุทธิประมาณ 80,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3%

สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์ดังกล่าวแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มดังนี้

 

อันดับที่ 1 กลุ่มธุรกิจประเภทอาหาร สำหรับบจ.ที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์มีดังนี้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ผู้ประกอบธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ,บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT ผู้ประกอบธุรกิจการเกษตรครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่ปู่ย่าพันธุ์ ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่พ่อแม่พันธุ์ และบริษัท บางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน) หรือ BR ผู้นำในธุรกิจผลิตอาหารจากเนื้อเป็ดแบบครบวงจร โดยดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและผลิตอาหารจากเนื้อเป็ดที่มีคุณภาพในระดับพรีเมี่ยม โดยช่วงเทศกาลตรุษจีนบจ.ดังกล่าวได้มีการปรับลดราคาอาหาร หรือของไหว้ อาทิ เป็ดพะโล้ไหว้เจ้า ไก่ย่างไหว้เจ้า เพื่อกระตุ้นยอดขาย

 

อันดับที่ 2 กลุ่มธุรกิจประเภทโรงแรม บจ.ที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์ได้แก่ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่น และบริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้แบรนด์ของตนเอง เซ็นทารา โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท เซ็นทรา และธุรกิจรับจ้างบริหารโรงแรมภายใต้สัญญาบริหารโรงแรม และธุรกิจอาหารจานด่วนในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ของตนเอง คือ เดอะ เทอเรส และริว และแฟรนด์ไชส์ทั้งนี้คาดว่าเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์ดังกล่าว เนื่องจากนักท่องเที่ยวจากจีนจะเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ธุรกิจด้านโรงแรมจึงมียอดจองเพิ่มสูงขึ้น

อันดับที่ 3 กลุ่มธุรกิจประเภทสายการบิน บจ.ที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์ได้แก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ผู้ประกอบธุรกิจท่าอากาศยานของประเทศไทย ,บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA บริษัทประกอบธุรกิจสายการบิน ธุรกิจสนามบิน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสนามบิน และบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ผู้ประกอบธุรกิจด้านการลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยในปัจจุบัน บริษัทถือหุ้นใน บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัดเพียงแห่งเดียว สำหรับบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการสายการบินราคาประหยัด ซึ่งในเทศกาลตรุษจีนนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศต่างๆ มากขึ้น เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว ทางสายการบินต่างๆ จึงได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นด้วย

 

ขณะที่ นายวรพร ตั้งสง่าศักดิ์ศรี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2560 เป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งความต้องการใช้ธนบัตรของประชาชนอยู่ในเกณฑ์สูงกว่าปกตินั้น ธปท. ประมาณการว่าธนาคารพาณิชย์จะมีการเบิกจ่ายธนบัตรจาก ธปท.ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนเทศกาลตรุษจีน เป็นมูลค่าสุทธิประมาณ 80,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3% ทั้งนี้ ธปท. ได้เตรียมสำรองธนบัตรชนิดราคาต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการไว้อย่างเพียงพอ

 

ด้านธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ได้เตรียมสำรองเงินสดสำหรับให้บริการในสาขาและเครื่องเอทีเอ็มเพื่อรองรับการใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีน 2560 ในช่วงวันที่ 25 – 28 ม.ค. 60 รวมทั้งสิ้น 50,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้แบ่งเป็นการสำรองเงินสดผ่านช่องทางสาขา จำนวน 21,000 ล้านบาท  เป็นเงินสำรองสำหรับสาขาในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 8,500 ล้านบาท และสาขาในเขตภูมิภาค จำนวน 12,500 ล้านบาท  ทั้งนี้ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมี 1,109 สาขา ทั่วประเทศ

สำหรับการสำรองเงินสดเพื่อเครื่องเอทีเอ็ม (K-ATM) ที่มีอยู่จำนวนกว่า 8,900 เครื่องทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 29,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการสำรองเพื่อบรรจุเครื่องเอทีเอ็มในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 14,000 ล้านบาท และเอทีเอ็มในเขตภูมิภาค จำนวน 15,000 ล้านบาท

ส่วนธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ปี 2560 ทางธนาคารได้มีการสำรองเงินสดไว้ให้บริการแก่ลูกค้าเพิ่มเติมจากภาวะปกติโดยรวมทั้งสิ้นประมาณ 35,000 ล้านบาท ผ่านสาขาธนาคาร สาขาไมโครภายในห้างสรรพสินค้ากว่า 1,000 แห่ง และช่องทางบริการเอทีเอ็มที่มีกว่า 10,000 จุดทั่วประเทศ เพื่อรองรับปริมาณความต้องการเงินสดของประชาชนสำหรับใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ พร้อมสำรองธนบัตรใหม่บางส่วนสำหรับใช้เป็นเงินอั่งเปามอบเป็นธรรมเนียมในเทศกาลปีใหม่จีนนอกจากนี้ ทางธนาคารยังได้เตรียมความพร้อมสำหรับดำเนินการเพิ่มความถี่ในการเติมเงินยังตู้บัวหลวงเอทีเอ็มเป็นกรณีพิเศษอีกด้วย

ด้านธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เตรียมสำรองเงินสดสำหรับการให้บริการที่สาขาและเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม เพื่อรองรับการเบิกถอนเงินของลูกค้าและประชาชนในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2560 ระหว่างวันที่ 23 ม.ค. – 3 ก.พ. 60 รวมทั้งสิ้น 26,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากปี 2559 จำนวน 23,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินสดสำรองสำหรับบริการผ่านเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม จำนวน 19,000 ล้านบาท และผ่านช่องทางสาขาของธนาคารจำนวน 7,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันธนาคารมีสาขาจำนวน 658 สาขา และเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม จำนวน 6,250 เครื่องทั่วประเทศ