เจาะกลยุทธ์ลงทุนเดือนก.พ.คัดมาเน้นๆ 15 หุ้นตัวท๊อป

เจาะกลยุทธ์การลงทุนเดือนก.พ.คัดมาเน้นๆ 15 หุ้นตัวท๊อป นำโดย ANAN, BJC, IRPC, KGI, KTB, LPH, S, TWPC, ASK, GLOW, LPN, BCH, SEAFCO, KN และ AMATA รัีบสอยด่วน!

เข้าสู่การลงทุนเดือนกุมภาพันธ์เชื่อว่านักลงทุนยังมองหาหุ้นที่น่าลงทุนต่อเนื่อง แม้ว่าช่วงนี้SET Index จะขยับเข้าใกล้1,600 จุด และเริ่มมีอัพไซด์จำกัด ดังนั้น“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงทำการรวบรวมข้อมูลการลงทุนจากบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจเดือนก.พ.มานำเสนอเพื่อให้เห็นทิศทางและปัจจัยที่น่าลงทุนชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะกลยุทธ์การลงทุนหุ้นรายตัวที่น่าลงทุนเดือนนี้ได้คัดมาเน้นๆ คือ ANAN, BJC, IRPC, KGI, KTB, LPH, S, TWPC, ASK, GLOW, LPN, BCH, SEAFCO, KN และ AMATA เป็นต้น

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ว่า  ในเดือนมกราคม 2560 พอร์ตหุ้นแนะนำของเราลดลง 1.0% ในขณะที่ SET Index ขยับขึ้น 2.2% เนื่องจากตลาดไม่ได้ยอมรับหุ้น high growth ที่มี valuations สูงอย่างที่เราคาดไว้ก่อนหน้านี้ แต่ตลาดพลิกไปให้ความสนใจกับหุ้นที่มีราคาลดลงมาก valuations อยู่ในระดับต่ำ และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกแทน

โดยหุ้นราคาแพงอย่างเช่นหุ้นอาหารและหุ้นกลุ่มการบริโภคได้รับผลกระทบด้านลบ เนื่องจาก valuations สูง และส่วนใหญ่ปรับตัวแย่กว่า SET index ส่วนในเชิงบวกนั้น หุ้นแนะนำที่ปรับตัวได้ดีในเดือนที่แล้ว ได้แก่ SMT ซึ่งปรับขึ้นถึง 18.7% จนถึงราคาเป้าหมายปี 2560 ที่ 8.25 บาท ในขณะที่ SEAFCO ขยับขึ้นเล็กน้อย 2.6%

มุมมอง SET เดือนกุมภาพันธ์:อาจพักสร้างฐาน หลัง ‘Trump rally’ หนุนดัชนีเข้าใกล้เป้าปี 2560 แล้ว เนื่องจากตลาดต่างๆในโลกได้ตอบรับการเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของ Trump ที่เป็นไปอย่างราบรื่นไปแล้ว และเชื่อว่าแรงส่งทางบวกจะไม่ต่อเนื่องในเดือนนี้ เพราะนโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญๆ อย่างเช่น การลดภาษีบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล รวมถึงเรื่องการค้าระหว่างประเทศจำเป็นต้องได้ไฟเขียวจากสภา congress ก่อน ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อนที่จะประกาศออกมาได้ 

นอกจากนี้ยังมองว่าคำสั่งล่าสุดของ Trump เรื่องการห้ามประชาชนของประเทศมุสลิม 7 ประเทศเข้าประเทศสหรัฐอาจจะทำให้ตลาดเกิดความกังวลเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และอาจใช้เป็นข้ออ้างในการขายลดพอร์ตในช่วงที่ valuations ของตลาดหุ้นดูค่อนข้างแพง และดัชนีก็ขยับเข้าใกล้เป้าหมายปี 2560 ที่ 1,600 จุด ซึ่งอิงจาก  P/E ที่ 15.6x และ EPS ปี 2560 ที่ 102.1 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่า consensus EPS ในปัจจุบัน 

หุ้นเด่นเดือนกุมภาพันธ์:เน้นหุ้นที่จ่ายเงินปันผลน่าสนใจ และหุ้นที่มีประเด็นบวกรายบริษัท จากที่มองว่าหุ้นไทยอาจจะแกว่งตัวหรือลดลงได้บ้างในเดือนกุมภาพันธ์ และการที่หุ้นขนาดใหญ่ส่วนใหญ่อย่างเช่น หุ้นในกลุ่มธนาคาร และพลังงานขยับเข้าใกล้ราคาเป้าหมายปี 2560 แล้ว

ดังนั้นธีมหุ้นของเราในเดือนนี้จึงยังคงเน้นหุ้น defensive และเน้นไปที่สามประเด็นได้แก่

i) หุ้นที่จ่ายปันผลดีสำหรับผลการดำเนินงานงวดหลังของปี 2559

ii) หุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ 4Q59 จะออกมาแข็งแกร่ง

iii) หุ้นที่ได้อานิสงส์จากแนวโน้ม FDI ที่ดีขึ้นจาก Trump effect และนโยบายเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ EEC โดยหุ้นเด่นในเดือนนี้ได้แก่ ASK, GLOW*, KTB*, LPN*, BCH*, SEAFCO, TKN และ AMATA*

 

บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ถึงแม้เรามองตลาดหุ้นไทยช่วง 1-3 เดือนข้างหน้านี้ (เดือนก.พ.-เม.ย.) ยังมีแนวโน้มแกว่งซิกแซกขึ้น แต่จะขึ้นแบบผันผวน และยังคงมุมมอง Upside ระยะสั้นจำกัด โดยยังคงเป้า SET Index สิ้นปีนี้ที่ 1650 จุด ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งอิงจากระดับ Forward PER ปี 2018F ที่ 13.8 เท่า (+0.5 SD จากค่าเฉลี่ย Forward PER 5 ปีที่ผ่านมา) เนื่องจาก

(1) การที่ SET Index เข้าใกล้หรืออยู่สูงกว่าระดับ 1600 จุดขึ้นไป จะคิดเป็น Forward PER ปี 2017F ที่มากกว่า 15 เท่า ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูง น่าจะจูงใจให้เกิดแรงขายทำกำไรเกิดขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผ่านพ้นช่วงฤดูกาลการประกาศผลประกอบการและเงินปันผลในช่วงสิ้นเดือน ก.พ.ไปแล้ว (หมดปัจจัยหนุน)

(2) ความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอกคาดว่าจะเพิ่มขึ้น จากการเริ่มดำเนินนโยบายด้านต่าง ๆ ของ Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และโอกาสการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในช่วงปลายไตรมาส 2/60 (FED จะมีการประชุม 2 ครั้งในไตรมาส 2/2017 คือ 2-3 พ.ค. และ 13-14 มิ.ย.) ที่คาดว่าจะสร้างความผันผวนแก่กระแสเงินทุนต่างประเทศเคลื่อนย้าย และ

(3) ในทางปัจจัยเทคนิค SET Index กำลังเริ่มก่อตัวสัญญาณขัดแย้งกันในเชิงลบ หรือที่เรียกว่า “Negative Divergence”ซึ่งบ่งชี้ว่า อาจเกิดความผันผวนในระยะต่อไปได้ หากยังเห็นภาพขัดแย้งนี้ชัดมากขึ้นในอนาคต ด้วยมอง Upside ตลาดในระยะสั้นมีจำกัด

ดังนั้นจึงแนะนำหาจังหวะซื้อช่วงอ่อนตัว โดยเน้นสะสมหุ้นงบ-ปันผลดีและแนวโน้มกำไรปีนี้จะเติบโตดีกว่าตลาด หุ้นที่เราแนะนำในเดือน ก.พ. คือ ANAN, BJC, IRPC, KGI, KTB, LPH, S และ TWPC

โดยหุ้นทุกตัวคาดงบไตรมาส 4/59 จะออกมาดี แต่จะมีความโดดเด่นด้านอื่นที่แตกต่างกันไป อาทิ ANAN, IRPC, KGI, KTB และ TWPC เป็นหุ้นที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่กำลังจะจ่ายในช่วง 1-2 เดือนข้างนี้สูงกว่าระดับ 3%

ส่วน BJC, LPH และ S จะมีความโดดเด่นในแง่ของกำไรที่จะเติบโตสูงในปีนี้ ด้านแนวรับและแนวต้านสำคัญของ SET Index เดือนนี้อยู่ที่ 1570-80 (หากยังคงแนวโน้มแกว่งซิกแซกขึ้น แนวรับนี้ไม่ควรหลุด แต่หากหลุด อาจมีเหตุการณ์พิเศษที่กระทบต่อตลาดมาก และคาดว่าจะใช้เวลาพักตัวนานขึ้นกว่าจะฟื้นตัวกลับขึ้นมาทะลุ 1600), 1545-50 และ 1625-30, 1640-50 จุด ตามลำดับ