เปิด 10 หุ้นวิ่งฉิวรับ“ปีไก่ทอง”ชูรีเทิร์นสูงเกิน 30%

เปิด 10 หุ้นวิ่งฉิวรับ“ปีไก่ทอง”ชูรีเทิร์นสูงเกิน 30% นำโดย APCS, TLUXE, UV, ORI, GIFT, SYNEX, SPPT, LST, MONO และ RCL

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) เดือนมกราคม 2560 โดยเทียบราคาปิด ณ วันที่ 30 ธ.ค.59-31 ม.ค. โดยการสำรวจครั้งนี้จะขอนำเสนอหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงเกิน 30 %

อีกทั้งให้ผลตอบแทนสูงกว่าตลาด ซึ่งปรับตัวขึ้นเพียง 2.23%  โดยเทียบดัชนี ณ วันที่  30 ธ.ค. 59 อยู่ที่ระดับ 1,542.94 จุด เพิ่มขึ้น 34.37 จุด มาอยู่ที่ระดับ 1,577.31 จุด ณ วันที่ 31 ม.ค.60 โดยหุ้นที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวมีทั้งหมด 10 ตัว คือ APCS, TLUXE, UV, ORI, GIFT, SYNEX, SPPT, LST, MONO และ RCL

หลักทรัพย์	30-ธ.ค.-59	31-ม.ค.-60	เปลี่ยนแปลง
			บาท	%
APCS	5.55	8.85	3.30	59.46
TLUXE	9.00	14.10	5.10	56.67
UV	6.25	9.20	2.95	47.20
ORI	8.00	11.70	3.70	46.25
GIFT	3.90	5.55	1.65	42.31
SYNEX	7.15	9.95	2.80	39.16
SPPT	5.00	6.95	1.95	39.00
LST	5.70	7.90	2.20	38.60
MONO	2.84	3.90	1.06	37.32
RCL	5.15	6.95	1.80	34.95

 

อันดับ 1 บริษัท เอเซีย พรีซิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ APCS ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 59.46% จากราคา ณ วันที่ 30 ธ.ค. 59 อยู่ที่ระดับ 5.55 บาท  บวก 3.30 บาท มาอยู่ที่ 8.85 บาท ณ วันที่ 31 ม.ค.60 ราคาหุ้นปรับตัวแรงเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้คว้างานก่อสร้างโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรม ขนาด 9.9 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการ 195 ล้านบาท ทำให้นักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากผลประกอบการที่ผ่านมาขาดทุนอย่างต่อเนื่อง

 

อันดับ 2 บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TLUXE ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 56.67% จากราคา ณ วันที่ 30 ธ.ค. 59 อยู่ที่ระดับ 9.00 บาท  บวก 5.10บาท มาอยู่ที่ 14.10 บาท ณ วันที่ 31 ม.ค.60ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงเนื่องนักทุนมั่นใจว่าผลการดำเนินงานปี 59 จะออกมาสดใสเนื่องจากบริษัทขาดทุนปี 57-58 ล่าสุด เข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในญี่ปุ่นยิ่งทำให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นไม่หยุด

 

อันดับ 3 บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 47.20% จากราคา ณ วันที่ 30 ธ.ค. 59 อยู่ที่ระดับ 6.25 บาท  บวก 2.95บาท มาอยู่ที่ 9.20 บาท ณ วันที่ 31 ม.ค.60 ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงเนื่องจากหุ้นมีพื้นฐานแข็งแกร่งเห็นได้จากกำไรที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 56-ปัจจุบัน ส่งผลทำให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง

 

อันดับ 4 บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 46.25% จากราคา ณ วันที่ 30 ธ.ค. 59 อยู่ที่ระดับ 8.00 บาท  บวก 3.70บาท มาอยู่ที่ 11.70 บาท ณ วันที่ 31 ม.ค.60 ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงเนื่องจากที่ผ่านมาหุ้นมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุนต่อเนื่องทั้งแนวโน้มผลการดำเนินงานปี59-60 ออกมาโดดเด่นและนักวิเคราะห์ให้คำแนะนำเข้าลงทุนยิ่งทำให้หุ้นปรับตัวแรง

บล.กสิกรไทย แนะนำ “ซื้อ” ORI ราคาเป้าหมาย 10 บาท/หุ้น โดยยังคงชอบ ORI จากพัฒนาการด้านการขายที่ยังดีต่อเนื่อง โดยคาดยอดขายปี 2559 จะเพิ่มขึ้น 100% จากปีก่อนส่งผลให้ backlog สิ้นปีคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 13.5 พันล้านบาท ซึ่งทำให้ประมาณการรายได้ของบริษัทในปี 2560-61 มีความแน่นอนแล้ว 80% และ 68% ตามลำดับ

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี 60 ว่า เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ประมาณ 9 โครงการ รวมมูลค่าโครงการประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 8 โครงการ ขณะเดียวกันในปีนี้จะเริ่มพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบอีก 1 โครงการ มูลค่า 700 ล้านบาท และเริ่มดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าด้วย เพื่อทยอยปรับสัดส่วนโครงการในมือและรายได้บริษัท

สำหรับปี 60 ตั้งเป้าหมายยอดขายเพิ่มขึ้น 20% มาที่ 1.3 หมื่นล้านบาท จาก 1.08 หมื่นล้านบาทปีก่อน ขณะที่วางเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่ 6 พันล้านบาท ซึ่งมียอดขายรอโอน (Backlog) รองรับอยู่แล้วที่ 77%

 

อันดับ 5 บริษัท แกรททิทูด อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ GIFT ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 42.31% จากราคา ณ วันที่ 30 ธ.ค. 59 อยู่ที่ระดับ 3.90 บาท  บวก 1.65 บาท มาอยู่ที่ 5.55 บาท ณ วันที่ 31 ม.ค.60 บริษัทดำเนินธุรกิจผลิต จัดหา พัฒนาและจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์สำหรับการผลิตสินค้าสำเร็จรูป โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงทิศทางธุรกิจปี 59-60 สดใส อีกทั้งนักวิเคราะห์แนะนำให้เข้าลงทุนทำให้ราคาหุ้นเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง

บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า การบริโภคในประเทศที่คาดจะฟื้นตัวในปีนี้จะหนุนแนวโน้มยอดขายผลิตภัณฑ์ประเภท Consumer product (ธุรกิจหลัก GIFT คือ ตัวแทนขายผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ สำหรับนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ สบู่ แชมพู น้ำยาล้างห้องน้ำ ฯลฯ เป็นต้น)

ทั้งนี้คาดอัตรากำไรปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้น จากการเริ่มรุกเข้าสู่การเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ฯ ในรูปแบบ OEM จากปัจจุบันงบ 9M59 อัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 22.4%  อีกทั้ง Valuation ไม่แพงด้วย Trailing PE 14.2 เท่า (โดยคาดจะลดลงในปี 60 จากแนวโน้มธุรกิจที่ดีขึ้นตามที่วิเคราะห์ไว้เบื้องต้น)

 

ส่วนอันดับ 6-10 คือ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) SYNEX,บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SPPT,บริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ LST,บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ MONO และบริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) หรือ RCL ส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนเกิน 30% ตามลำดับ โดยส่วนใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นเนื่องจากความคาดหวังตัวธุรกิจที่จะพลิกฟื้นกลับมาทั้งปี 59-60 ทำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรอย่างต่อเนื่อง

 

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน