ITEL ชิง “เน็ตฯหมู่บ้าน” วันนี้! ชูจุดแข็งโครงข่ายครอบคลุม 75 จังหวัด

ITEL พร้อมชิง "อินเทอร์เน็ตหมู่บ้าน" วันนี้! ชูจุดแข็งโครงข่ายครอบคลุม 75 จังหวัด พร้อมรับอานิสงส์นโยบายไทยแลนด์ 4.0 มองผลการดำเนินงานปีนี้โตเด่น จากงานภาครัฐและเอกชนที่เพิ่มมากขึ้น


ITEL พร้อมชิง “อินเทอร์เน็ตหมู่บ้าน” วันนี้! ชูจุดแข็งโครงข่ายครอบคลุม 75 จังหวัด พร้อมรับอานิสงส์นโยบายไทยแลนด์ 4.0 มองผลการดำเนินงานปีนี้โตเด่น จากงานภาครัฐและเอกชนที่เพิ่มมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (10 ก.พ.) ทางบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT จะทำการเปิดประมูลโครงการอินเทอร์เน็ตหมู่บ้าน จำนวน  24,700 หมู่บ้าน วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท โดยมีบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะเข้าร่วมประมูลดังนี้ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL, บริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JTS, บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET, บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK, บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SYMC และ บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT

โดยบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL นั้น เป็น 1 ในตัวเต็งที่เข้าร่วมประมูล ซึ่งเหล่านักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์ว่า ITEL จะได้รับงานดังกล่าว เนื่องจากบริษัทมีความพร้อมในหลายๆด้าน โดยที่ผ่านมา ITEL ได้เข้าร่วมประมูลงานหลายโครงการด้วยกัน และมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง บริการออกแบบ ก่อสร้าง และโครงการสื่อสัญญาณโทรคมนาคม รวมไปถึงการบริการเช่าพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ จึงมีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทจะเป็นผู้ชนะในการประมูลครั้งนี้ด้วย

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ จึงได้ทำการสำรวจข้อมูลบทวิเคราะห์ของ ITEL ที่นอกเหนือจากประเด็นดังกล่าวแล้ว ยังเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับอานิสงส์จากนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งเป็นตัวผลักดันในการใช้เทคโนโลยีและอินเทอร์เนตเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ ส่วนผลการดำเนินงานปี 60 จะเติบโตอย่างโดดเด่น จากธุรกิจ Data Service ที่มีลูกค้ารายใหญ่เข้ามาใช้บริการมากขึ้น พร้อมทยอยรับรู้ยอด Backlog จำนวน 220 ล้านบาท และยังมีโอกาสคว้างานจากโครงการภาครัฐและเอกชนที่เพิ่มมากขึ้น จึงคาดว่าจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทในระยะยาว

โดยเมื่อวันที่ 7 ก.พ. นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ หรือ โครงการเน็ตประชารัฐ ว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง โดย TOT ได้ประกาศประกวดราคาการจัดซื้ออุปกรณ์รองรับโครงการฯทั้งหมด 5 รายการ คือ เคเบิลใยแก้วนำแสง Optical Fiber Cabel, อุปกรณ์ข่ายสาย ODN, อุปกรณ์ Optical Line Terminal (OLT), อุปกรณ์ Switch และอุปกรณ์ Wireless Access Point

สำหรับการชี้แจงเปิดกว้างโดยใช้ข้อกำหนดเพื่อให้ได้อุปกรณ์เป็นไปตามมาตรฐาน TOT และขอให้ทุกบริษัทมั่นใจว่าการดำเนินการจะเป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่มีการล็อกสเปกอย่างแน่นอน

นายมรกต กล่าวว่า “TOT กำหนดยื่นเอกสารเสนอราคาในวันที่ 10 ก.พ.60 พร้อมลงนามข้อตกลงคุณธรรม และคาดว่าจะลงนามสัญญาประมาณต้นเดือนมี.ค.60 จากนั้นประมาณเดือนพ.ค.60 จะดำเนินการติดตั้งได้และส่งมอบได้จำนวนประมาณ 3,000 หมู่บ้าน ซึ่งจะดำเนินการติดตั้งและส่งมอบทุกเดือนโดยคาดว่าภายในเดือนธ.ค.60 จะติดตั้งครบ 24,700 หมู่บ้านตามเป้าหมาย”

ITEL20170208

 

ด้านนักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง แนะนำ “ซื้อ” ITEL ราคาเป้าหมาย 15 บาท/หุ้น โดยมีความมั่นใจในการเติบโตของรายได้ค่าเช่าโครงข่าย Fiber Optic คาดราว 40% จากปีก่อนในปี 2560 (ซึ่งจะมาจากการหาลูกค้าใหม่เข้ามาเพิ่ม utilization rate หนุนรายได้เติบโตราว 8-10% จากไตรมาสก่อน ในทุกไตรมาส) โดยในไตรมาส 4/59 จะเริ่มรับรู้รายได้จาก mobile operator รายใหม่ที่เข้ามาเช่าโครงข่าย Interlink Dark Fiber ในเส้นทางภาคใต้เพิ่มขึ้น และไปจนถึงไตรมาส 1/60 คาดจะเติบโตจากการรับรู้รายได้ของลูกค้าที่เป็นร้านสะดวกซื้อ ปัจจุบันบริษัทได้รับสัญญาเข้ามาราว 1,000 สาขา ซึ่งมีโอกาสที่จะได้รับสัญญาเพิ่มจงจรของจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่เข้าไปขายการเชื่อมต่อกับตู้ ATM ที่อยู่หน้าร้านสะดวกซื้อที่บริษัทมีวงจรเชื่อมต่ออยู่แล้ว

โดยมองว่าจุดแข็งของโครงข่าย Interlink Fiber Optic คือมีความครอบคลุมถึง 75 จังหวัด ทั้งในส่วนของ Core backbone (ตามเส้นทางรถไฟ) และ Last mile (ตามเส้นทางถนน) ช่วยให้สามารถให้บริการกับลูกค้าที่มีสาขากระจายตัวทั่วประเทศได้ และคุณภาพ SLA ที่สูงถึง 99.9985% เป็นเวลาหลายปี บริษัทจึงมีความได้เปรียบในการแข่งขัน คาดจะเป็นปัจจัยหนุนให้รายได้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 

 

ด้านนักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” ITEL ราคาเป้าหมาย 13.40 บาท/หุ้น หลังจากคาดว่าผลการดำเนินงานปี 60 อยู่ที่ 129.8 ล้านบาท เติบโต 78.3%จากปีก่อน โดยมีรายได้รวมจากการให้บริการอยู่ที่ 849.0 ล้านบาท เติบโต 16.5%จากปีก่อนแบ่งออกเป็น รายได้จากการให้บริการโครงข่ายโต 37.7%จากปีก่อน จากลูกค้าทยอยเข้าใช้บริการมากขึ้น และรายได้จากบริการติดตั้งโครงข่ายอ่อนตัว 13.2%จากปีก่อน เนื่องจากจำนวนสัญญางานใหม่อาจเข้ามาไม่มากเท่าปีก่อน โดยคาดว่างานในมือ (Backlog) ณ สิ้นปี 59 อยู่ที่ 220 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เข้ามาในปีนี้ เช่น โครงการประชารัฐ (มูลค่า 75.7 ล้านบาท) และโครงการซ่อมบำรุง Fiber Optic (มูลค่า 124.6 ล้านบาท)

ทั้งนี้บริษัทมีโอกาสลุ้นงานประมูลโครงการต่างๆอีกมาก เช่น โครงการขยายโรงเรียนประชารัฐ และ National Broadband ในขณะเดียวกันรายได้จากการให้บริการ Data Center เพิ่มขึ้น 13.2%จากปีก่อน จาก Occupancy Rate ที่เพิ่มขึ้น ด้านอัตรากำไรข้นต้นปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 34.1% เทียบ 26.9% ในปี 59 เนื่องจากศูนย์ Data Center และ Fiber Optic Network ใช้งานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 

สำหรับศูนย์บริการ Data Center แห่งใหม่ ร่วมกับ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AlT และ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือWHA คาดสร้างเสร็จภายใน ม.ค. 60 และพร้อมเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ มี.ค. 60 เป็นต้นไป จึงมองบวกต่อการลงทุนดังกล่าวจากความต้องการใช้ศูนย์ฝากข้อมูลที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้คาดว่าจะรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนเข้ามาเล็กน้อยในปี 60 แต่เชื่อว่าสามารถทำกำไรตั้งแต่ปี 61 และถึงจุดคุ้มทุนในปี 65 ล่าสุด Presale ไปแล้วกว่า 30% และมีลุ้นงานจากลูกค้ากลุ่มธนาคารอีก 1 ราย โดยมี Upside รายได้ถึง 60 ล้านบาทต่อปี

อนึ่งราคาหุ้น ITEL ปิดตลาดวานนี้ (9 ก.พ.) อยู่ที่ 11.20 บาท ปรับตัวขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.90% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 8.57 ล้านบาท  

Back to top button