“ทวิช”เร้ารายย่อยมาโหวตด้วยตนเองเหตุกังวล 14 ก.พ.นี้ อาจมีตุกติก
"ทวิช"เร้ารายย่อยมาโหวตด้วยตนเอง เหตุกังวล 14 ก.พ.นี้ อาจมีตุกติก
นายทวิช เตชะนาวากุล เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ของ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด ออนเรดิโอ” ทาง FM 98.5 MHz สถานีข่าวจริง สปริงเรดิโอ ช่วงเวลา 9.30-11.00 น. ถึงกรณีที่ นายวิชัย ถาวรวัฒนายงค์ นำหุ้นบริษัท อินเตอร์ ฟาอีสท์ แคปแมนเนจเม้นท์ จำกัด หรือ ICAP จำนวน 51% ซึ่งถือหุ้นในโรงแรมดาราเวทีอยู่จำนวน 100% โดยมีมูลค่าจำนองประมาณ 2 พันกว่าล้านบาท เพื่อไปเป็นหลักประกันหนี้ตั๋วบี/อี จำนวน 100 ล้านบาท กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ LHFUND แต่เกิดการผิดนัดชำระหนี้ไปเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา
โดย นายทวิช ให้ความเห็นว่า ทางบลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ได้ติดต่อเข้ามาหาตน เพราะมีความกังวลว่าทาง IFEC จะผิดนัดชำระหนี้ “ทาง บลจ. LH ได้ติดต่อเรื่อง ตั๋ว B/E มานั้นเป็นเรื่องจริง แต่ผมปฏิเสธข้อเสนอของทาง บลจ.ไปเพราะว่าผมไม่มีหน้าที่ไปยุ่งเกี่ยวกับบริษัท แต่จากนั้นไม่กี่วันทางบริษัทก็ติดต่อมาอีกครั้ง โดยให้เหตุผลว่า ผมเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยตั๋วใบนี้มีความพิเศษ เนื่องจากมีหลักค้ำประกันเป็นโรงแรมดาราเทวี 51% แต่โดยปกตินั้นตั๋ว B/E จะไม่มีหลักประกัน จึงได้ทำการตรวจสอบเรื่องหลักฐานการออกตั๋ว และหลักฐานการจำนำ” นายทวิช กล่าว
ทั้งนี้นายทวิชได้เข้าไปซื้อตั๋ว B/E ใบดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งได้ทำการแล้วเสร็จก่อนวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นเพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทไม่ให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้ ทั้งนี้ทางผู้ส่งตั๋วเองนั้น มีหน้าที่ออกตั๋วและค้าเงิน โดยไม่ได้ต้องการที่จะยึดเอาหลักทรัพย์หรือค้าความกับทางบริษัท ซึ่งปกติที่นักการเงิน หรือสถาบันการเงินต้องการเงินคืนเท่านั้น โดยจะไปยึดทรัพย์ก็ต่อเมื่อไม่ได้เงินต้นคืนเท่านั้น
อนึ่งเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ได้จัดประชุมวิสามัญที่ผ่านมา นายทวิชได้ติดต่อกับทางสถาบันทางการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจในการชำระหนี้ ทางเจ้าหนี้ก็ได้ให้ความไว้ใจเสมือนกับเป็นเพื่อนกัน แต่สำหรับความสัมพันธ์กับทาง บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ นั้นตนไม่ได้เป็นลูกค้าแต่ก็รู้จัก โดยการชำระหนี้ครั้งนี้ก็สามารถทำได้อย่างไม่ยากนัก
อย่างไรก็ตามการประชุมที่จะเกิดใน 14 ก.พ. นี้ นายทวิชได้มีแผนการแก้ไขปัญหาคือเสนอรายชื่อชื่อกรรมการชุดเดียวกับการประชุมเมื่อวันที่ 25 ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าไม่มีสิทธิในการเสนอหรือขึ้นรายชื่อต่างๆ แต่คะแนนเสียงที่ไม่เห็นด้วยกับหมอวิชัยนั้นชัดเจน เนื่องจากมีผู้ถือหุ้นไม่เห็นด้วยประมาณ 63%
ทั้งนี้แผนการขั้นแรกหลังจากได้รับเลือกจะทำการชำระหนี้ตั๋ว B/E ทั้งหมดประมาณ 2.8 พันล้านบาท โดยจะสามารถชำระได้ภายใน 30-40 วัน ซึ่งที่สำคัญคือการขายทรัพย์สินที่ไม่การเคลื่อนไหว ซึ่งมีอยู่ประมาณพันล้านบาท คือต้องเร่งขายออกไปเพื่อนำเงินมาชำระหนี้อย่างน้อย 2-3 ราย
นอกจากนี้นายทวิชได้เชิญชวนผู้ถือหุ้นออกมาใช้สิทธิในการประชุมวันที่ 14 ก.พ.ที่จะถึงนี้ด้วยตนเอง “ขอเรียนเชิญผู้ถือหุ้นรายย่อยร่วมประชุมและมาเร็วหน่อย โดยขอความร่วมมือกับทางผู้ถือหุ้นรายย่อยให้ทุกคนเข้าประชุมและมอบอำนาจให้น้อยสุด และเข้าไปคัดเลือกในห้องประชุม ซึ่งเรายังอยู่ในฐานะผู้แข่งขัน เราก็จะเสียเปรียบแต่เราก็จะสู้ต่อไป” นายทวิชกล่าว
อย่างไรก็ตามนายทวิชปิดท้ายว่า หมอวิชัย ถาวรวัฒนายงค์ นั้น มีอำนาจที่จะสามารถปิดประชุมได้ทุกเมื่อ ขอให้หมอเป็นลูกผู้ชายและปฏิบัติตามเกณฑ์ของการประชุมที่เป็นสากล ที่เหลือก็เป็นทางตลาดหลักทรัพย์และทาง กลต.ที่จะมาช่วยในการกำกับดูแลอยากเห็นปรากฏการณ์อย่างการประชุมที่ผ่านมา