ได้เวลาเก็บ 4 หุ้นเดินเรือฉายแววสดใส รับ BDI แรงรอบใหม่
4 หุ้นเดินเรือฉายแววสดใส ราคาเด้งรับดัชนี BDI แรงต่อเนื่อง 3 วันติด ฟากโบรกฯ มองเป็นขาขึ้นรอบใหม่ นำโดย TTA ,RCL , PSL ,JUTHA
4 หุ้นเดินเรือฉายแววสดใส ราคาเด้งรับดัชนี BDI แรงต่อเนื่อง 3 วันติด ฟากโบรกฯ มองเป็นขาขึ้นรอบใหม่ นำโดย TTA ,RCL , PSL ,JUTHA
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” รายงานว่าดัชนี BDI ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 3 วันทำการ โดยนักวิเคราะห์มองว่าเป็นการเข้าสู่ช่วงขาขึ้นรอบแรกของปี 60 โดยหุ้นกลุ่มเดือนเรือจะได้รับปัจจัยบวกจากการที่ดัชนีดังกล่าวเริ่มปรับตัวขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้มีการปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง
โดยนักวิเคราะห์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) ดีดตัวขึ้นมาเป็นวันที่ 3 โดยวานนี้ดีดตัวขึ้นกว่า 4.4% มาอยู่ที่ 741 จุด คาดสร้างแรงเก็งกำไรต่อกลุ่มเรือ TTA, PSL
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ค่าระวางเรือเริ่มเข้าสู่ช่วงขาขึ้นรอบแรกของปี ในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. ซึ่งน่าจะส่งผลบวกแต่การเก็งกำไร โดยแนวโน้มของขาขึ้นจากผลทางฤดูกาลรอบใหญ่ จะอยู่ในช่วง พ.ค.-ส.ค. การซื้อขายในระดับใกล้เคียงมูลค่าทางบัญชี ทำให้หุ้นในกลุ่มนี้มีโอกาสได้รับการผลักดัน อาทิ PSL ซึ่ง PBV อยู่ที่ 1.1 เท่า, TTA ซึ่ง PBV อยู่ที่ 0.85 เท่า, RCL ซึ่ง PBV อยู่ที่ 0.56 เท่า ทั้งนี้หุ้นที่จะได้รับปัจจัยบวกคือ TTA ,RCL , PSL ,JUTHA
อันดับที่ 1 บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ราคาหุ้นล่าสุดปิดตลาดวานนี้ (20 ก.พ.) อยู่ที่ 10.20 บาท ปรับตัวขึ้น 0.40 บาท หรือ 4.08% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 219.48 ล้านบาท
ด้าน บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนะนำซื้อ TTA ให้ราคาเป้าหมาย 11.53 บาท ดัชนี BDI ปรับขึ้น และยังเป็นขาขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลักที่ใช้เรือเทกองขนส่ง (ถ่านหิน, แร่เหล็ก)
อีกทั้งบวกกับการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบที่เอื้อต่อธุรกิจเรือขุดเจาะน้ำมันและเรือวิศวกรรมใต้ทะเล จึงคาดปี 60 TTA มีโอกาสพลิกกลับมามีกำไรอีกครั้ง + ราคาหุ้นปัจจุบันยังเทรดต่ำ BVS โดยมี P/BV เพียง 0.7x และยังมี upside 16.5% จึงแนะนำ “ซื้อ”
อันดับที่ 2 บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) หรือ RCL ราคาหุ้นล่าสุดปิดตลาดวานนี้ (20 ก.พ.) อยู่ที่ 6.75 บาท ปรับตัวขึ้น 0.35 บาท หรือ 5.47% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 17.43 ล้านบาท
ด้าน บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดว่าแนวโน้มดัชนีค่าระวางเรือ BDI ยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้ได้ปรับขึ้นมามากกว่า 231% จากจุดต่ำสุดในช่วงต้นปี 2559 (ใกล้เคียงกับราคาน้ำมัน) ตามความต้องการใช้นำเข้าสินแร่เหล็กและถ่านหินของโลกที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภครายใหญ่ของโลก เนื่องจากเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนในโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน
นอกจากนี้ช่วงไตรมาส 1/60 เป็นช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวสาลีในออสเตรเลีย และอาร์เจนตินา ซึ่งทำให้มีการส่งมอบสินค้า และหนุนให้เกิดความต้องการเรือเทกองในงวดไตรมาส 1/60 และคาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ส่วนดัชนีเรือคอนเทนเนอร์ (ขนส่งสินค้าสำเร็จรูป) คือ ดัชนี SHI โดย RCL เป็นตัวแทนค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์แถบเอเซีย สามารถฟื้นตัวได้เช่นกัน ล่าสุดอยู่ที่ 990 จุด จากจุดต่ำสุดที่ 400 จุด ช่วงต้นปี 2559 แสดงถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลบวกให้ภาคการค้าระหว่างประเทศฟื้นตัวดีขึ้นเป็นลำดับ อย่างไรก็ตามธุรกิจเรือคอนเทนเนอร์ต่างจากเรือเทกองตรงที่ต้องแบกภาระต้นทุนน้ำมันทั้งหมด จึงมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบ จึงทำให้การฟื้นตัวล่าช้ากว่าเรือเทกอง และคาดจะเผชิญความเสี่ยงขาดทุนในช่วง 1-2 ปีนี้อยู่ โดยแนะนำซื้อ RCL ราคาเป้าหมาย 7.5 บาท
อันดับที่ 3 บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL ราคาหุ้นล่าสุดปิดตลาดวานนี้ (20 ก.พ.) อยู่ที่ 10.30 บาท ปรับตัวขึ้น 0.70 บาท หรือ 7.29% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 209.78 ล้านบาท
ด้าน บล.บัวหลวง แนะนำ “ถือ” PSL ราคาเป้าหมาย 8.10 บาท/หุ้น ทั้งนี้มองราคาหุ้นในปัจจุบันซึ่งซื้อขายที่ระดับ PBV ณ สิ้นปี 2560 ที่ 1.1 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 1.2 เท่าเล็กน้อย แต่สูงกว่าค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 0.8 เท่าอยู่ 34% ได้สะท้อนผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/59 ของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้นเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากตอนนี้อยู่ในช่วงโลว์ซีซั่นของอุปสงค์เรือเทกองจึงยังจะไม่เห็นปัจจัยผลักดันราคาหุ้นในระยะอันใกล้ อย่างไรก็ตามแนวโน้มตลาดเรือเทกองที่ปรับตัวดีขึ้นน่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นต่อไปได้ ดังนั้นยังคงคำแนะนำ “ถือ”
อันดับที่ 4 บริษัท จุฑานาวี จำกัด (มหาชน) หรือ JUTHA ราคาหุ้นล่าสุดปิดตลาดวานนี้ (20 ก.พ.) อยู่ที่ 2.92 บาท ปรับตัวขึ้น 0.10 บาท หรือ 3.55% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 9.94 ล้านบาท
*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้นเป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้นและมิได้เป็นการชี้นำหรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่านไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตามล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน