THAI-AAV-NOK-AOT เลิกตกใจไม่หวั่น“ชาร์เตอร์ไฟล์ท”โดนแบน
เลิก “แพนิค” กันได้แล้ว! เหตุญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้สั่งระงับเที่ยวบินเหมาลำไทยเข้าประเทศ ไม่กระทบธุรกิจ THAI-AAV-NOK เพราะให้บริการในรูปแบบเที่ยวบินประจำเป็นหลัก พร้อมกับได้รับอนุญาตให้บินเข้าเหมือนเดิม ด้าน AOT ก็ฉลุย “ชาร์เตอร์ไฟล์ท” มีไม่ถึง 5% ของเที่ยวบินทั้งหมด
เลิก “แพนิค” กันได้แล้ว! เหตุญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้สั่งระงับเที่ยวบินเหมาลำไทยเข้าประเทศ ไม่กระทบธุรกิจ THAI-AAV-NOK เพราะให้บริการในรูปแบบเที่ยวบินประจำเป็นหลัก พร้อมกับได้รับอนุญาตให้บินเข้าเหมือนเดิม ด้าน AOT ก็ฉลุย “ชาร์เตอร์ไฟล์ท” มีไม่ถึง 5% ของเที่ยวบินทั้งหมด
แหล่งข่าวรายหนึ่งเปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” กรณีกรมการบินพลเรือนประเทศ ญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้สั่งห้ามเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำสัญชาติไทยบินเข้าประเทศว่า ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจของสายการบินที่มีตารางบินประจำที่ได้รับอนุญาตแล้วก่อนหน้านี้ เนื่องจากเป็นการได้รับอนุมัติให้ทำการบินในประเภทที่ต่างกัน โดยสามารถให้บริการได้ปกติตามตารางบินช่วงฤดูร้อน จนกว่าจะถึงรอบการเปลี่ยนตารางประจำฤดูอีกครั้งในช่วงฤดูหนาว
“การที่ ญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ สั่งระงับชาร์เตอร์ไฟล์ทจากไทย ไม่มีผลกระทบต่อ การบินไทย แอร์เอเชีย กับนกแอร์ หรือ นกสกู๊ต เพราะสายการบินเหล่านี้ให้บริการตามตารางประจำเกือบ 100% และหากมีผลกระทบบ้าง คงเป็นแค่การเสียโอกาส เพราะไม่สามารถเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน หรือเปลี่ยนขนาดเครื่องบินที่มี Capacity สูงกว่าได้ ส่วนนกสกู๊ตได้หาทางออกด้วยการใช้เครื่องบินที่จดทะเบียนสัญชาติสิงคโปร์แทน จึงไม่น่าจะมีอะไรมากระทบอย่างมีนัยสำคัญ” แหล่งข่าวกล่าว
ประเด็นที่น่าจับตาต่อจากนี้คือ รัฐบาล ซึ่งนำโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเข้ามาแก้ไขปัญหาของกรมการบินพลเรือน หรือ บพ. ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขนาดไหน เนื่องจากยังมีโอกาสที่เที่ยวบินสัญชาติไทย ทั้งที่เป็นแบบเที่ยวบินประจำ และที่เป็นแบบเที่ยวบินพิเศษจะถูกสั่งห้ามบินเข้าอีกหลายประเทศ หากไม่สามารถปรับปรุงให้เทียบเท่ากับเกณฑ์มาตรฐานสากลได้ในเร็วๆนี้
“ส่วนประเด็นเรื่องการถูกระงับการบินจะบานปลายจนมากระทบกับพวกที่มีตารางบินประจำหรือเปล่า ผมเชื่อว่ามันอาจไม่รุนแรงถึงขั้นนั้น โดยหวังว่าทาง กพ. จะสามารถแก้ไขเรื่องมาตรฐานการทำงานได้ในอีกไม่ช้า โดยเฉพาะตอนนี้มันคือวาระระดับชาติแล้ว ไม่น่าจะถูกเพิกเฉยอีกต่อไป” แหล่งข่าวกล่าว
ทางด้าน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ก็ได้รับผลกระทบทางจิตวิทยามากพอสมควร โดยราคาหุ้นเมื่อวันที่ 30 มี.ค. ปรับตัวลงค่อนข้างแรง กว่า 4.44% ซึ่งในทางวงการหุ้นเรียกอาการแบบนี้ว่า Panic Sell ซึ่งไม่ได้เป็นผลมาจากปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจแย่ลง และเมื่อดูจากข้อเท็จจริงจะเห็นได้ว่าจำนวนเที่ยวบินเช่าเหมาลำที่มาใช้บริการท่าอากาศยานที่อยู่ภายใต้ AOT คิดเป็นเพียงแค่ราว 5% ของจำนวนเที่ยวบินทั้งหมด ซึ่งในจำนวนนี้ยังแยกไปอีกว่า เป็นเที่ยวบินสัญชาติไทยหรือไม่ อีกทั้งไม่ใช่เที่ยวบินเช่าเหมาลำทั้งหมดจะให้บริการในเส้นทางที่กำลังมีปัญหาอยู่ ณ ขณะนี้
อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่น่าเป็นห่วงอย่างมากในตอนนี้ คือกลุ่มสายการบินที่เป็นแบบเช่าเหมาลำ อาทิ เอเชียแอตแลนติก เจ็ทเอเชีย โอเรียนท์ไทย สกายวิว และสบายดีแอร์เวย์ นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว รวมไปถึงกลุ่มมัคคุเทศก์ เนื่องจากได้จำหน่ายตั๋วเครื่องบิน หรือแพคเกจทัวร์ให้กับลูกค้าไปแล้วเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสำหรับช่วงสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง โดยส่วนใหญ่เป็นการใช้บริการจากสายการบินเช่าเหมาลำ ซึ่งเดินทางไปยังประเทศเกาหลีใต้ และ ประเทศจีนมากที่สุด