3 หุ้นกลุ่มรพ.ฉายแวว OUTPERFORM-เป้าหมายวินโดว์เดรสซิ่ง

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลหลังจากพบว่าราคาหุ้นในกลุ่มดังกล่าวมีแนวโน้มว่าจะสามารถปรับตัวขึ้นได้ในช่วงปลายเดือนมี.ค.60 โดยมีหุ้นที่น่าสนใจอยู่ 3 บจ. ได้แก่บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) หรือ VIBHA ,บริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH และบริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH ที่ราคาหุ้นยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์ให้ นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงที่จะถูกทำ Window dressing

โดยภายในสัปดาห์นี้จนถึงสัปดาห์หน้าคาดว่าจะเกิด Window dressing โดยส่วนใหญ่แล้วจะเกิดกับหุ้นที่ราคายังไม่ปรับตัวขึ้นมาก จึงคาดว่าทั้ง 3 บจ.ที่กล่าวมาข้างต้นจะเป็นเป้าหมายการทำ Window dressing ของกองทุน และจะส่งผลให้ราคาหุ้น OUTPERFORM ได้ในที่สุด

 

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล ราคา Laggard (VIBHA*, LPH) โดยประเมินราคาหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่ Laggard ตลาดฯ ตั้งแต่ต้นปีมีโอกาสที่จะถูกทำ Window dressing ใน 1 – 2 สัปดาห์นี้

โดยประเมินหุ้น VIBHA และ LPH ที่ยังไม่ขึ้นเครื่องหมาย XD น่าสนใจ โดยเฉพาะ VIBHA ที่จะมีการแจก Warrant ฟรี 13:1 ด้วย (VIBHA ขึ้น XD ปันผล 0.035 บาท/หุ้น และ XW warrant ฟรี 13:1 วันเดียวกัน วันที่ 8 พ.ค.) ขณะที่หุ้นโรงพยาบาลใน SET100 อาทิ BH* และ BDMS* ขึ้นเครื่องหมาย XD ไปแล้วทั้งคู่ แนะนำ “เก็งกำไร” VIBHA แนวรับ 2.92 บาท แนวต้านแรก 3.06 บาท และถัดไปที่ 3.22 บาท (Stop loss 2.90 บาท)

 

ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ โดยมองว่าราคา VIBHA จะ “OUTPERFORM” ให้ราคาเป้าหมาย 3.40 บาท/หุ้น ทั้งนี้มองว่าบริษัทจะโอนโครงการ greenfield ไปที่สินแพทย์ โดยคาดว่ากำไรของกลุ่มวิภารามในปีนี้จะฟื้นและโตถึง 219% จากปีก่อน เป็น 173 ล้านบาท

ทั้งนี้คาดว่ากำไรสุทธิของ VIBHA จะโต 27% ในปี 2560 นำโดยโครงสร้างใหม่ของวิภาราม และการพลิกฟื้นของวิภาราม อมตะ โดยปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 3.40 บาท (จากเดิม 3.20 บาท) โดยคาดว่า EPS ปี 60 จะโตถึง 27% ซึ่งสูงกว่ากลุ่มที่ 18%

 

ด้านนักวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ โดยแนะนำ “ซื้อ” LPH ราคาเป้าหมาย 11.40 บาท/หุ้น คงประมาณการรายได้และผลประกอบการปี 60-61 โดยที่มีสมมติฐานของผู้ป่วย OPD โต 10% จากปีก่อน (คาดรายได้จากผู้ป่วย IPD โต 13-20% จากปีก่อน เนื่องจากการลงทุนใน Excellence Center)

ทั้งนี้ให้มูลค่าที่เหมาะสมใหม่อ้างอิงวิธี DCF โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 11.40 บาท เนื่องมาจากสัดส่วนของรายได้ประจำและอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น โดยเราใช้ WACC ที่ 8.4% อิงผลตอบแทนไร้ความเสี่ยง 2.3%, ส่วนชดเชยความเสี่ยงของตลาด 8.7% (จาก DTJV) โดยที่มีความเสี่ยงคือ 1) การเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านสุขภาพของภาครัฐ 2) การพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน 3) การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น

 

ด้าน EKH มีประเด็นบวกกับแนวโน้มผลประกอบการปี 60 โดย นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการบริหารและผู้อำนวยการโรงพยาบาล EKH เปิดเผยว่า ในปี 60 ภาพรวมธุรกิจโรงพยาบาลมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยตั้งเป้าหมายรายได้โรงพยาบาลเอกชัยจะเติบโต 8% จากปีก่อนอยู่ที่ 511.98 ล้านบาท เนื่องจากการให้บริการทางการแพทย์ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

อนึ่ง Windows dressing คือการดันราคาหุ้นปิดให้สูงขึ้น เพื่อทำให้ราคาหุ้นในพอร์ทมีมูลค่าสูงขึ้น และเมื่อมีการปิดไตรมาสจะนำตัวเลขมูลค่าที่เพิ่มขึ้นนั้นมาบุ๊คบัญชี ส่งผลต่อเงินลงทุนมีมูลค่าสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม Windows dressing นั้น จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำ แต่ส่วนใหญ่แล้วหากดัชนีมีการปรับตัวขึ้นสูงมากแล้วมักจะไม่เกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้น

 

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้นเป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำหรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตามล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน