ล้วงลึกหุ้นเด็ดตลาด maiไอพีโอสะเด่า-กำไรโตสนั่น!

เปิดตำนานยุคทองหุ้น IPO แห่งตลาดเอ็มเอไอ เข้าเทรดวันแรก ปิดเหนือจองเกือบทุกตัว แถมโชว์ผลงาน งวดปี 57 ออกมาสุดแจ่ม ฟากผู้จัดการตลาดฯ ออกอาการชื่นใจ คุยโวเอาบริษัทมาเข้าตลาดอีกปีละ 20 ตัว

 

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลหุ้นเข้าใหม่ของตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ หรือ mai รวมไปถึงผลประกอบการงวดประจำปี 2557 ของบริษัทจดทะเบียน พบว่า ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน มีหุ้น IPO เข้ามาทำการซื้อขายทั้งหมด 36 ตัวด้วยกัน ซึ่งในจำนวนนี้มีเพียงแค่ 1 บริษัทเท่านั้น ที่ราคาปิด ณ วันแรกของการซื้อขายปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาจอง ในขณะที่กำไรสุทธิของหุ้น IPO เหล่านี้เติบโตขึ้นเฉลี่ยราว 144.27% จากปีก่อนหน้า (2556) ขณะที่ผลกำไรสุทธิของตลาดโดยรวม เติบโตขึ้นเฉลี่ยนราว 15.90% จากช่วงเวลาเดียวกัน

สำหรับหุ้นเข้าใหม่ทั้ง 36 ตัว หากเรียงจากล่าสุด ประกอบไปด้วย NDR-TPCH-KCM-PSTC-JSP-FIRE-NCL-SPA-TSE-FSMART-SMART-RWI-CCN-LDC-XO-TAKUNI-PDG-AIRA-PCA-OTO-LIT-AIE-OCEAN-SPVI-GCAP-FVC-WINNER-BKD-SEAOIL-AUCT-MONO-CHO-SANKO-ECF-AKP และ EA โดยในจำนวนนี้ มีเพียง AIE ตัวเดียวเท่านั้นที่ราคาวันแรกปิดที่ระดับ 3.54 บาท ปรับตัวลดลง 1.21 บาท หรือ 25.47% จากราคาจองซื้อ

 

ขณะเดียวกัน ถ้าดูผลประกอบการของบริษัทเหล่านี้ ในงวดปี 2557 ถือว่า เติบโตขึ้นจากงวดปี 2556 อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งมีหุ้นที่จดทะเบียนในปี 2556 จำนวนทั้งสิ้น 14 ตัว มีกำไรสุทธิ 2.36 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.60 พันล้านบาท หรือ 209.58% จากปีก่อนหน้า ส่วนหุ้นที่จดทะเบียนในปี 2557 จำนวน 20 ตัว มีกำไรสุทธิ 1.94 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 988 ล้านบาท หรือ 104.43% และหุ้นที่จดทะเบียนในปี 2558 จำนวน 2 ตัว มีกำไรสุทธิ 74 ล้านบาท ลดลง 4 ล้านบาท หรือ 5.13%

ด้านผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ งวดปี 2557 มียอดขายรวมทั้งสิ้น 1.20 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.91 พันล้านบาท หรือราว 8.02% จากปี 2556 ส่วนผลกำไรสุทธิโดยรวมอยู่ที่ระดับ 5.26 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 725.93 ล้านบาท หรือ 16.01% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ราว 21.87% เพิ่มขึ้นประมาณ 0.65% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ราว 4.38% เพิ่มขึ้นประมาณ 0.31%

 

แม้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่กระเตื้องขึ้นเท่าไหร่ แต่เกือบ 100% ของหุ้นไอพีโอที่เข้ามาจดทะเบียนตั้งแต่ปี 2556 สามารถทำผลงานได้น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง โดยยอดขายและกำไรของบริษัทต่างๆ เติบโตขึ้นมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งมีความเป็นไปได้ที่บริษัทเหล่านี้จะเติบโตอย่างโดเด่นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ขณะที่ นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ตั้งเป้าว่า ภายในปีนี้จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ไม่ต่ำกว่าปีละ  20 บริษัท ในช่วง  5 ปีต่อจากนี้  

นี่จึงเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนจะได้สำรวจความพร้อมในการเข้าลงทุน IPO รอบใหม่ที่จะเริ่มโหมโรงตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 58 และในขณะเดียวกันก็เป็นการทบทวนด้วยว่า หุ้นจองที่นักลงทุนได้มานั้นมีมูลค่าสูงขึ้นตามกำไรที่ทำได้ในแต่ละปีหรือไม่ c]tจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า การลงทุนระยะยาวคุ้มค่าขนาดไหน