กำไรหุ้นอสังหาฯฉายแววเริ่ด ชู 2 ตัวท็อปแบ็คล็อกสูงปรี๊ด!

กำไร Q1/60 หุ้นกลุ่มอสังหาฯฉายแวดเจิดจ้า หลังยอดพรีเซลล์คอนโดพุ่ง จัด 2 ตัวท็อปน่าสอย ตุน Backlog สูงปรี๊ด!


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ได้ทำการสำรวจบทวิเคราะห์ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งดูเหมือนว่าตัวเลขยอดพรีเซลล์ในไตรมาส 1/60 จะปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนที่ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในงวดดังกล่าวปรับตัวขึ้น

โดยนักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ โดยมองว่ายอด Presales ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์นั้นปรับตัวดีเฉพาะตลาดบน โดยคาด Presales ในไตรมาส 1/60 ของ 7 บริษัทใหญ่ในกลุ่มอสังหาฯจะเติบโต 1.4% จากไตรมาสก่อน และเติบโต12.7% จากปีก่อนเป็น 4.1 หมื่นล้านบาท (56% เป็นแนวราบ 44% เป็นคอนโด)

สำหรับการเติบโตทั้งหมดมาจากคอนโด (คาดเพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสก่อน, เพิ่มขึ้น 72% จากปี่กอน) โดยเฉพาะคอนโดระดับบน เช่น 98 Wireless (SIRI), 28 Chidlom (SC), LPN Suite Makkasan (LPN), Supalai Oriental 39 (SPALI), และ The reserve Thong Lo (PSH)

ด้านคอนโดระดับกลางยังพอขายได้จากที่ชะลอการซื้อในไตรมาสก่อน ส่วนยอดขายแนวราบน่าจะลดลงตามฤดูกาลและเพราะไม่มีมาตรการกระต้น คาดลดลง 3% จากไตรมาสก่อน และลดง 11% จากปีก่อน จึงแนะนำหุ้นที่มี Backlog สูงคือ SPALI (ราคาพื้นฐาน 30 บาท) และ AP (ราคาพื้นฐาน 9 บาท)

 

สำหรับหุ้นที่นักวิเคราะห์ให้เป็น Top Pick ได้แก่ SPALI และ AP

โดยนายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยว่า ในปี 2560 บริษัทตั้งเป้าสร้างยอดขายและรักษาผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน จากการตั้งเป้ายอดขายของบริษัท 27,000 ล้านบาท และเป้ารายได้รวม 24,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว จากแผนเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 29 โครงการ แยกเป็นโครงการแนวราบ ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล และต่างจังหวัด จำนวน 24 โครงการ โครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ จำนวน 5 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 37,200 ล้านบาท

“ปีนี้เรายังคงมั่นใจว่าผลประกอบการจะทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องจากปีก่อน โดยมองว่าภาพรวมยังเติบโตได้ค่อนข้างดี โดยตลาดคอนโดมิเนียมตามรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ ยังจะมีการเติบโตได้ค่อนข้างดี คาดว่าจะเติบโตได้ 5-10% ขณะที่แนวราบเองถึงแม้ว่าภาพรวมจะไม่เติบโตแต่ด้วยความเชื่อมั่นของผู้ซื้อยังเชื่อมั่นในผู้ประกอบการรายใหญ่มากกว่า เราจึงยังมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และด้วยความสำเร็จของการขยายโครงการในต่างจังหวัด ซึ่งปีนี้สัดส่วนจะเพิ่มขึ้นเป็น 28% จึงเป็นส่วนช่วยให้เรามีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยในระยะยาวบริษัทก็ยังคงมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตในระดับ 10-15% เหมือนกับช่วงที่ผ่านมาได้”นายไตรเตชะ กล่าว

 

ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะนำ “Buy” SPALI ราคาเป้าหมาย 29 บาท/หุ้น โดยยังคงชอบ SPALI แม้ในสถานการณ์ที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ไม่โดดเด่นและอยู่ช่วงของการฟื้นตัวอย่างช้า ๆ โดยจะเห็นว่า SPALI เด่นกว่ากลุ่มจาก Backlog ในมือที่สะสมไว้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งคาดจะหนุนระดับ Secured Revenue ในปีนี้ได้ไม่น้อยกว่า 52% และคาดจะทำให้รายได้และกำไรสุทธิ รวมทั้ง Presales ในปีนีทำฐาน New Record High ได้ และหากเปรียบเทียบกับกลุ่มระดับ PER อยู่ในระดับที่ไม่สูงเพียง +/-8 เท่าและมี Dividend Yield ที่ +/-5% ต่อปี

 

ขณะเดียวกัน นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมาตลาดโดยรวมยังคงทรงตัว พอขายได้แต่ไม่หวือหวามาก การเปิดตัวโครงการใหม่ก็มีไม่มาก ซึ่งเป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจและบรรยากาศการซื้อสินค้าของผู้บริโภคที่ยังฟื้นกลับมาไม่ 100% ซึ่งคิดว่าตลาดจะกลับมาคึกคักหลังจากเทศกาลสงกรานต์ผ่านไป

สำหรับแนวโน้มตลาดจากวันนี้จะเป็นไปในทิศทางไหน สำหรับสินค้าคอนโดมิเนียมเชื่อว่า จากวันนี้ไปตลาดคอนโดระดับล่างยังคงเหนื่อยในการผลักดันสต็อกเหลือขาย ส่วนตลาดคอนโดระดับกลางถึงไฮเอนต์ไม่น่ากังวลดีมานด์ยังคงมีอยู่ แต่ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของการสรรหาที่ดินมาพัฒนา จะช่วยกรองผู้เล่นในตลาดให้เหลือน้อยลง สุดท้ายก็จะคงเหลือเพียงผู้ประกอบการรายใหญ่สู้กันเอง ส่วนตลาดแนวราบเราเห็นภาพดีเวลลอปเปอร์วิ่งหาซื้อที่ดินเพื่อนำมาพัฒนาโครงการแนวราบทดแทนสินค้าคอนโดมากขึ้น ดังนั้นจากวันนี้ไปแนวราบจะแข่งขันกันมากขึ้นกว่าเดิม

“การทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในวันนี้ นอกจากเรื่องของทำเลที่ตั้งและแพคเกจราคาขายแล้วนั้น ที่เอพีเราโฟกัสการพัฒนาสินค้า ภายใต้ 3 แกนสำคัญ คือ โครงสร้างต้นทุน – การเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค – การมองหานวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับสินค้า ซึ่งทั้ง 3 แกนนี้ต้องหมุนให้เร็วและทันกัน ภายใต้วิสัยทัศน์ใหญ่ที่มุ่งเดินเกมด้วยแนวคิด “เอพีคิดและสร้างความแตกต่าง” (AP THINK DIFFERENT) เพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่ต้องการให้บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียมเครือเอพีเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวคนเมือง (THE ULTIMATE CHOISE FOR URBAN FAMILY)”

 

ด้าน นักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ แนะนำ “ซื้อ” AP ให้ราคาเป้าหมาย 9.20 บาท/หุ้น หลังโครงการเปิดตัวใหม่ปี 2560 หนุนยอด Presales ใน ไตรมาส 1/60 ที่ 3.75 พันล้านบาท นับเป็น 14.4% ของเป้าหมายปี 2560 รอดูไตรมาส 2/60 การเปิดตัวคอนโด 2 โครงการที่คาดว่าจะได้รับการตอบรับดี อย่างเช่นเคยภายใต้แบรนด์ Lifeส่วนด้านยอดโอนปี 2560

ทั้งนี้คงประมาณการณ์เดิมที่ 2.33 หมื่นล้านบาท จากการสนับสนุนของทั้งโครงการแนวราบที่จะเปิดตัวใหม่ และ โครงการ Vittorio ที่มีมูลค่าโครงการอยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท และคาดว่าจะขายและโอนได้ในปี 2560 ราว 35% ของโครงการ และการโอนโครงการภายใต้การร่วมทุน 5 โครงการในปีนี้ ที่จะมาสนับสนุนการรับรู้กำไรส่วนแบ่งจากการร่วมทุน ยังเลือก AP ให้เป็น Top Pick ของกลุ่ม และเรายังคงแนะนำซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 9.20 บาท

 

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้นเป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำหรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตามล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button