8 หุ้น mai แรงติดจรวด! โชว์ 3 เดือนโกยรีเทิร์นเกิน 40%

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ mai ในรอบ 3 เดือน โดยเทียบราคาปิด ณ วันที่ 30 ธ.ค.59-31 มี.ค.60 โดยการสำรวจครั้งนี้นำเสนอหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเกิน 40%


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ mai ในรอบ 3 เดือน โดยเทียบราคาปิด ณ วันที่ 30 ธ.ค.59-31 มี.ค.60 โดยการสำรวจครั้งนี้นำเสนอหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเกิน 40% เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มนี้มีผลตอบแทนโดดเด่นและมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุน โดยหุ้นที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวมี 8 ตัว ด้วยกันคือ HTECH, MOONG, OCEAN, OTO, UKEM, CCN, SIMAT และ

อันดับ 1 บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH ราคาหุ้นปรับตัวแรง 74.55% มาอยู่ที่ระดับ 9.60 บาท (31 มี.ค.60) บวก 4.10 บาท จากระดับ 5.50 บาท (30 ธ.ค. 59) ราคาหุ้นปรับตัวแรงช่วง 3 เดือนที่ผ่านมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุนหลายทาง อาทิ การแจ้งงบปี 2559 ออดมาสดใส และแผนการย้ายเข้าตลาดฯ SET ที่คาดว่าจะได้รับอนุมัติภายในเดือนเมษายนนี้

อีกทั้งบริษัทโชว์แผนงานปี 60 โดยตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 8-10% จากปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นจากลูกค้าในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (HDD) ขณะที่อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ในต่างประเทศมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น จึงเป็นแรวหนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวโดดเด่น

อันดับ 2 บริษัท มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MOONG ราคาหุ้นปรับตัวแรง 69.79% มาอยู่ที่ระดับ 8.15 บาท (31 มี.ค.60) บวก 3.35 บาท จากระดับ 4.80 บาท (30 ธ.ค. 59) ราคาหุ้นปรับตัวแรงช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา คาดเป็นการเก็งกำไรทางเทคนิคหลังจากหุ้นย่ำฐานระดับเกือบ 5 บาท มานาน ประกอบกับผลกำไรที่มีต่อเนื่องทำให้นักลงทุนแห่เข้ามาเก็งกำไรอย่างคึกคัก

อีกทั้ง บล.เออีซี ระบุว่า MOONG หุ้นพื้นฐานดีราคาถูกมากที่นักลงทุนไม่มองมานานแรมปี  ธุรกิจของบริษัทมีผลิตภัณฑ์แม่และเด็กมากมาย ยี่ห้อเด่น เช่น Pigeon ที่ใครๆ จากการสัมภาษณ์ผู้บริหารพบว่าปี 60 นี้แนวโน้มกำไรจะทุบสถิติ อีกทั้งตั้งเป้าขายสินค้าแบบ E-Commerce จึงน่าจะมีอะไรดีๆ อีกเพียบ  จุดเด่นคือค่า Forward PE ต่ำเพียง 8 เท่ากว่าๆ ยิ่งเป็นแรงหนุนให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรอย่างหนาแน่น

อันดับ 3ริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด (มหาชน) หรือ OCEAN ราคาหุ้นปรับตัวแรง 69.32% มาอยู่ที่ระดับ 1.49 บาท (31 มี.ค.60) บวก 0.61 บาท จากระดับ 0.88 บาท (30 ธ.ค. 59) ราคาหุ้นปรับตัวแรงช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากหุ้นมีราคาถูกและง่ายต่อการดันราคา

อีกทั้งช่วงที่ผ่านมามีแรงซื้อเก็งกำไรจากการเข้ามาถือหุ้นของ“กลุ่มฟ้าประทาน” ซึ่งทำธุรกิจ โรงแรม THE TWIN TOWERS สัดส่วนมากกว่าร้อยละ 13 โดยนักลงทุนมองว่าเป็นการเข้ามาเพื่อหวังนำธุรกิจโรงพยาบาลเข้ามาจดทะเบียนทางอ้อม (Back door Listing) จึงเป็นแรงหนุนให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร

อย่างไรก็ตามภายหลังการเข้ามาถือหุ้นดังกล่าว นายอุชัย วิไลเลิศโภคา กรรมการผู้จัดการ บมจ.โอเชี่ยน คอมเมิรช (OCEAN) ได้ออกมาชี้แจงว่า บริษัทยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายฟ้าประทาน จิตตรัตน์เสนีย์ ว่ามีวัตถุประสงค์ใดในการเข้ามาถือหุ้น แต่อย่างไรก็ตามในกลุ่มของตนเองยังคงถือหุ้น OCEAN มากกว่า 30%

อันดับ 4 บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO ราคาหุ้นปรับตัวแรง 54.90% มาอยู่ที่ระดับ 7.90 บาท (31 มี.ค.60) บวก 2.80 บาท จากระดับ 5.10 บาท (30 ธ.ค. 59) ราคาหุ้นปรับตัวแรงช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัททำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง จึงเป็นพื้นฐานให้นักลงทุนเชื่อมั่น อีกทั้งบริษัทมีงานเข้ามาต่อเนื่องทำให้ธุรกิจโดดเด่นจึงเป็นแรงหนุนให้ราคาหุ้นปรับขึ้นแรงในช่วงที่ผ่านมา

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART เปิดเผยว่า ธุรกิจสาย Related Business โดยบริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ตั้งเป้ารายได้ในอีก 4 ปีข้างหน้าจะเติบโตแตะ 2.5 พันล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 1.3 พันล้านบาท จากปัจจุบันมีงานในมือแล้วกว่า 900 ล้านบาท และคาดจะได้รับงานใหม่เข้ามาเพิ่มอีก 400 ล้านบาท จากลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น กลุ่มสายการบิน ธนาคาร โรงพยาบาล ธุรกิจประกัน เป็นต้น

อันดับ 5 บริษัท ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จำกัด (มหาชน) หรือ UKEM ราคาหุ้นปรับตัวแรง 50% มาอยู่ที่ระดับ 2.04 บาท (31 มี.ค.60) บวก 0.68 บาท จากระดับ 1.36บาท (30 ธ.ค. 59) ราคาหุ้นปรับตัวแรงช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากหุ้นมีพื้นฐานแข็งแกร่งเห็นได้จากผลประกอบที่มีกำไรอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับช่วงที่ผ่านมานักวิเคราะห์แนะให้เข้าลงทุนยิ่งเป็นแรงหนุนให้หุ้นขึ้นแรง

อีกทั้งนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร หลังบริษัทขายหุ้น GIFT จำนวน 10,000,000 หุ้น หรือ คิดเป็น 3.3% ราคาหุ้นละ 4.50 บาท ให้กับ TEMPLETON ASSET MANAGEMENT LTD. จำนวน 8,000,000 หุ้น และนักลงทุนทั่วไปที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการจำนวน 2,000,000 หุ้น

สำหรับบริษัทดำเนินธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ โดยสินค้าประกอบด้วยสารทำละลาย (Solvents) ซึ่งเป็นสินค้าที่จำหน่ายทั่วไป (Commodity Solvent) สำหรับใช้เป็นสารทำละลายซึ่งเป็นส่วนประกอบในการผลิตสินค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ

อันดับ 6-8 บริษัท ซีซีเอ็น-เทค จำกัด (มหาชน) หรือ CCN,บริษัท ไซแมท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SIMAT และ บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. จำกัด (มหาชน) หรือ K ตามลำดับ ราคาหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวแรงเกิน 40% โดยหุ้น CCN และ SIMAT ถือเป็นเก็งกำไร เนื่องจากพื้นหุ้นไม่แข็งแกร่งมากนัก โดยเฉพาะ SIMAT  ที่ยังมีผลขาดทุนต่อเนื่อง ขณะที่ K ปรับตัวแรงคาดนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรตามพื้นฐานหุ้น โดยเห็นได้จากปี 58-59 บริษัทมีกำไรโดดเด่นชัดเจน

 

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button